วันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2562

เทศกาลพบปะประจำปี2019

เอาล่ะ
ก่อนอื่นเลยต้องบอกว่า
มาช้า...
แต่มานะ /บิดเขิง
กลับมาแล้วค่ะ กับเทศกาลพบปะ(ไอดอล)ประจำปี2019

ด้วยความที่ว่าปีนี้AKBไม่ปล่อยอัลบั้ม พอไม่ปล่อยอัลบั้มก็ไม่มีงานทูชอต
พอไม่มีงานทูชอต ช่วงเดือนพ.ค.ที่เราจะไปหาน้องทุกปีก็เลยเป็นอันต้องพับโครงการไป ;-;
ตอนแรกก็คิดว่าปีนี้อาจจะต้องเสียสถิติซะแล้ว ;----;
แต่พอเข้าเดือนหก ฝนยังไม่ตกพรำๆ ก็มีประกาศวางขายซิงเกิลที่25ของ SKE48 วงที่จูรินะจังสังกัดอยู่

ชื่อซิงเกิลคือ Frustration 
ดูMVได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=TsDe0694BqI
คลิป Dance practice สุดเก๋ ดูได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=sV2-7HsXeQM

ก็ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะไปดีมั้ยน้า แต่ถ้าไม่ไปซิงนี้ ก็เท่ากับปีนี้เราก็จะไม่ได้ไปเจอน้องเลยอ่ะค่ะ ม่ายยย ;---;
เพราะงั้นพอประกาศตารางจับมืออะไรเรียบร้อยแล้ว ก็เลยเคาะได้วันเหมาะๆวันนึง คือวันที่7กันยายนที่ผ่านมานั่นเองงง ซึ่งคราวนี้กลับไปจับที่ Intex Osaka ที่เคยไปมาแล้วเมื่อสองปีก่อนค่ะ เชี่ยวชาญด้านฮอลจัดงานมากบอกเลย ฮาาาาา

ก็ลงบัตรไปทั้งหมด 18 ใบ
แบ่งเป็นโอชิคนเดิมร้ากมากไม่นอกใจด้วยของเรา

















น้องจู มัตสึอิ จูรินะ SKE48 TeamS
คราวนี้ลงน้องไปเต็มๆ ลงเต็มอัตราจนกว่าบัตรน้องจะหมด สรุปสุดท้ายสุ่มมาได้17ใบค่ะ

กับอีก1ใบ เป็นเมมเบอร์ที่เราเพิ่งจะมาเอ็นดูน้อง อยากจะไปเจอตัวจริงสักครั้ง
น้องคนนั้นก็คืออออ





















น้องรู อิโนะอุเอะ รูกะ SKE48 TeamS
น้องแพต(ตี้) ประจำสาขานาโกย่านั่นเองงงง ที่มาก็คือน้องเป็นเด็กรุ่น8ที่น้องจูเอ็นดู(?) ให้ความสนใจ(?)เป็นพิเศษ ก็มีพาน้องไปเดต ไปเลี้ยงข้าวเลี้ยงหนม ซื้อของคู่ให้ตั่งต่าง ประหนึ่งคู่พี่แดนน้องแพตตี้ค่ะ 555555

เรื่องน้องรู ไว้เดี๋ยวเรามาเล่าให้ฟังอีกทีตอนท้ายนะคะ



ตัดภาพไปที่วันงานจับมือเลยเนาะ

งานจับมือเดี่ยวSKE48 ซิงเกิล Frustration ที่ Intex Osaka 
วันที่ 7 กันยายน 2019

ร้อนมากกกกกกกกกก
คราวนี้น้องจูเปิดให้จับมือแค่ 4 บุเท่านั้น แต่เราว่าดีนะคะ น้องจะได้ไม่เหนื่อยมาก ปกติแล้วจับตั้ง6บุ บุหลังๆน้องจะดูล้ามากๆ แม้จะสดใสเวลาคุยกับแฟนๆก็เถอะ ;-;
น้องจูมีจับบุแรกตอนบ่ายโมงแน่ะ เลยเป็นครั้งแรกที่เราได้ไปงานจับมือได้แบบสายๆชิลๆ เพราะปกตินี่ต้องตื่นแต่เช้ามากกกก นี่ไปถึงฮอลตอนเที่ยงหน่อยๆ ยังมีเวลาเตรียมตัวเตรียมใจ มีเวลาแวะไปลาราระก่อนเลยค่ะ

ราระ...

อย่างที่ทุกคนน่าจะรู้กันว่าราระ(โกโต้ ราระ TeamE) ได้ประกาศจบการศึกษาไปแล้ว ซึ่งก็หมายความว่า ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่เราจะมีโอกาสได้มาเจอราระในฐานะไอดอล ;---;
ซึ่งงานวันนี้ในตอนแรกเลยไม่ได้มีให้ลงบัตรจับมือเดี่ยว แต่เพิ่งจะมีประกาศว่าราระจะเข้าร่วมงานจับมือในวันนี้ด้วยนะ โดยให้ใช้บัตรจับมือทั่วประเทศที่แถมมากับแผ่นซีดีไทป์ลิมิเตทค่ะ

ตอนแรกกกจริงๆเลยเราไม่ได้กะจะเข้าไปหาราระแล้วแหละ แต่ด้วยความที่ไปถึงไว ประกอบกับราระต่อแถวไม่นานด้วย มีแผ่นขายหน้างานด้วย แรงบิ้วด้วย 5555 ก็เลยสอยแผ่นตรงนั้น แล้วก็เข้าไปหา ซึ่งคิดไม่ผิดเลยค่ะที่ได้เข้าไป อย่างน้อยก็ได้ไปอวยพร ได้ไปลาไปงอแงใส่น้องมันแล้ว ฮาาาา

ราระยังคงเป็นเด็กน่ารักเสมอมา ขอให้เดินไปบนทางที่โรยไปด้วยกลีบกุหลาบน้า ;-;



พอร่ำลาราระเสร็จก็ขนกันไปต่อแถวน้องจูได้พอดี พอเป็นงานวงเดี่ยวๆไม่ได้รวมทั้งกรุ้ป คนก็จะไม่เยอะมาก ต่อแถวไม่นานเลยยย ยืนรอได้สักแปปน้องจูก็มา เป็นการจับมือในรอบปีครึ่ง เป็นครั้งแรกหลังจากที่น้องกลับมาจากพักรักษาตัวด้วย 

จริงด้วย! วันที่ไปจับเป็นวันครบรอบ1ปีที่น้องไปขึ้นรายการ Music station ในฐานะเซนเตอร์เพลง Sentimental Train ด้วยค่ะ เป็นวันที่ดีจริงๆ ;-;

คราวนี้เราจดรีพอร์ตไว้ด้วยยย ไม่งั้นต้องลืมแน่ๆ 555
บุที่ประทับใจที่สุดคือบุแรกนั่นแหละ พอเราเดินเข้าไปปุ้บ ยังไม่ทันได้อ้าปากพูดเลย น้องก็ทักเลยว่าไม่ได้เจอกันนานนะคะ! คือใจฟูมากกก นานๆมาหาทีแต่ก็จำกันได้ด้วย ดีใจมากจริงๆค่ะ ขอบคุณน้าน้องจู ;---;

คราวนี้เราฝึกภาษาเตรียมโพยไปค่อนข้างที่จะพร้อม อันไหนนึกได้ในแถวก็เปิดแอพแปลมันตรงนั้นเลย 555 (ขอบคุณแอพPapagoมา ณ ที่นี้) แบบกะๆไว้แล้วว่าบุไหนจะชวนน้องเล่นอะไรบ้าง 
จับมือคราวนี้เลยค่อนข้างสมูธ ไม่มีช่วงเดธแอร์เลยแม้ตอนแรกจะกังวลนิดนึงเพราะคราวนี้ลงบัตรไปเยอะจริงๆค่ะ กลัวทำน้องลำบากใจด้วย แอแง 5555

แต่ปรากฎว่าสนุกอีกแล้ว! เคยบอกไปแล้ว แต่จะบอกอีกว่าเราชอบงานจับมือจริงๆค่ะ 
มันสนุกจริงๆนะ ประเด็นคือน้องก็น่ารักมากๆ บางทีพูดไปรู้เลยว่าพูดผิดอ่ะ มันสติแตกจริงๆ 5555 แต่น้องก็พยายามเข้าใจที่เราจะสื่อ ร่าเริงเสียงดังแล้วก็ใจดีกับเราตลอดเลย คราวหน้าพี่จะฝึกภาษาเตรียมโพยไปให้ดีกว่านี้น้า 555555555555 


ในรูปเราพิมพ์บุผิดค่ะ จริงๆน้องจับบุ 3,4,6,7


บุ3หลังจากพหวีดไปว่าฮือ น้องจำฉันด้าย แม่จ๋า 5555 พอวนกลับไปอีกรอบก็เลยไปบอกน้องไว้ก่อน ว่าไม่เก่งภาษาญี่ปุ่นนะคะ น้องก็รีบบอกกลับเป็นญี่ปุ่นเลยว่า เก่งๆๆๆรัวๆ แล้วเราดันโกเมนเนะต่อไป น้องเลยเปลี่ยนภาษาให้เป็นเวรี่กู้ดๆ น่ารักมากก

บุ4ก็ป่วงมาก ไม่รู้น้องกวนรึเปล่าหรือนึกไม่ออก แต่เราว่ากวน 55555 ไปให้น้องสอนคำญี่ปุ่นให้หน่อย เอาง่ายๆไรงี้ น้องมีหยุดนึกด้วยนะคะ แต่ก็พูดออกมาว่า ทิจิยู นี่ก็แบบ ห้ะ? ทิจิยูเตะน่าหนี??? 555555 น้องก็เอาแต่ทิจิยูๆๆๆแล้วก็ขำอยู่นั่น กวนมั้ยอ่ะคะแบบนี้ 555 คาใจมากเลยเข้าไปถามอีกรอบเลย น้องก็บอกว่าทิจิยูคือ Teach you แปลว่าสอนไงจ้ะพี่จ๋า ภาษาอังกฤษๆ ฮือ หยิกไอดอลได้มั้ยคะ

บุ5น้องไปพักค่ะ ไม่มีจับมือ เจออีกทีก็บุ6เลย บุนี้ก็เข้าไปชวนคุยทั่วไป อยากคุยกะน้องเรื่องชานม ตอนบอกอยากกินร้าน Pancha น้องตื่นเต้นใหญ่ อยากไปลองทานที่นาโกย่าดูเนาะ

บุ7บุสุดท้ายแล้ว ม่าย รอบแรกเรายื่นสามใบเลย เข้าไปแสดงความยินดีเรื่องโซโล่ แล้วเราอ่ะ ชอบเพลงนึงในอัลบั้มมากเลยค่ะ ชื่อเพลง Anata no Te แปลได้ว่า Your hand นั่นเอง เพลงนี้น้องก็เป็นคนแต่งเนื้อร้องนะคะ อ่ะ ก็อยากไปให้น้องร้องให้ฟังจังเลยน้า ก็เข้าไป ผลก็อย่างที่เห็นค่ะ 555555 ขี้เขินชะมัด! แอแง น่ารักอีกแล้ว ;---;

จนจบก็ได้พูดในสิ่งที่อยากพูดไปเกือบครบ แต่เอาจริงทำไปทำมาเราว่ายื่น2ใบเริ่มไม่พอสำหรับเรา มันพูดไม่ทันอ่ะ พิสตาฟดึงไวเกิ้น รอบสุดท้ายจริงๆอยากบอกว่าแล้วเจอกันใหม่นะ แต่บั่บ พูดไม่ทันนนน หนูหัวช้า พิอย่าเพิ่งลากหนู!!! /ร้องไห้ออกจากเลน

แต่ก็สนุกมากจริงๆค่ะ งานจับมือนี่ดีจริงๆเลย!

หลังจากนั้นก็มารอส่งน้องกลับบ้าน น้องก็ออกมาหน้าเลนอีกแล้ว มาพูดเรื่องว่ากลับมาทำงานได้ครบปีแล้วน้า ขอบคุณที่มาหากันนะคะ คราวนี้ไม่ยาวมาก เท่าที่จับใจความได้ก็ประมาณนี้ค่ะ จริงๆมันมากกว่านี้แหละแต่ฟังออกแค่นี้ ;-; ก่อนจะคอลน้องมีบอกด้วยว่า เลนอื่นๆเค้ายังจับไม่เสร็จนะคะ คอลเบาๆละกันเนอะ แต่สรุปก็ดังอยู่ดี 5555 แล้วน้องก็บ้ายบาย เข้าไปด้านหลัง







แต่ยังไม่จบ!!



เราก็เดินๆมาหาพี่ๆคนไทยที่ไปด้วยกันแถวๆเลนเรียวฮะ ยืนเม้ากันได้สักพักนึง น้องจูก็เดินออกมาพร้อมสตาฟจากทางด้านหลัง!! ข้ามฮอลไปตรงจุดที่มีบูทเล่นเกมส์ไพ่ ขายกู้ดส์ ขายขนม แล้วฝูงคนมากมายจากไหนไม่รู้แถวนั้นก็พร้อมใจกันกรูกันเข้าไปออกันแถวๆหน้าบูท พวกเมียแฟนไทยอย่างเราก็รีบเดินไหลๆๆไปตามเค้าอ่ะค่ะ เพราะไม่รู้น้องจะไปหยุดตรงบูทไหน ปรากฏว่าน้องไปประจำการอยู่ที่บูทขายขนมปลายี่ห้อซากามิ ร้านอาหารที่SKEเป็นพรีเซนเตอร์นั่นแหละค่ะ ก็คือน้องมาขายขนมปลานั่นเองงงง แล้วพอรู้ตัวอีกที สองขาเราก็พาตัวเองไปยืนอยู่ในแถวซื้อขนมแบบงงๆเหมือนลอยมา เท่าไหร่นะคะ? พันเยน ได้! /ควักเงิน

สเตปก็คือ คุณลุงคนขายจะถามเราว่าเอาเซทไหน ยื่นถุงขนมให้ ถัดไปก็จะเป็นน้องจูยืนยิ้มแฉ่งรอยื่นบัตรสมนาคุณเล็กๆให้เราค่ะ คือเป็นแผ่นพับบางๆก๊อกก๋อยมาก แต่น้องให้มากับมือ ก็เลยว่าจะเอาไปใส่กรอบแล้วค่ะ 5555555 ทีนี้ก็จะได้พูดกับน้องคนละประโยคได้แล้วแต่สกิล นี่ก็เลยไปเล่นดาจาเระกับน้องว่า ไทยากิทาเบะไทย! มาจากไทยากิ(ขนมปลา)ทาเบะไต(อยากกิน)ตรงไตก็เปลี่ยนเป็นไทยค่ะ น้องดูถูกใจกับมุขแป้กๆนี่มาก ถึงกับยกนิ้วโป้งให้เลยอ่ะ พี่ล่ะภูมิใจในตัวเอง 555555

แผ่นพับเป็นปฎิทินด้วยนะคะ
ขนมปลาแป้งไม่ไหวเลย แต่ไส้อร่อยมั่กๆ


จบจริงๆแล้วค่ะ เฮ้อ มีความสุขชะมัด ;--;

อ่า เหลืออีกเรื่องที่อยากจะสารภาพค่ะ จำได้มั้ยคะ ตอนต้นเราบอกไปว่าเราลงบัตรรูจังไปด้วย
เราไม่รอบคอบเอง โทษใครไม่ได้เลยค่ะ น้องรูพี่ขอโทษ
คือเราเข้าใจไปเองมาตลอด ว่าลงน้องรูบุ6ไปค่ะ มั่นใจแบบนั้น จนตอนที่ไปยืนอยู่หน้าเลนรูจังในบุที่6แล้วด้วย จนกระทั่งล้วงบัตรออกมา พบกับบัตรที่พิมพ์ไว้ว่า อิโนะอุเอะ รูกะ ''บุ4'' 
คือช็อค...
เราจำผิดค่ะ จำผิดมาโดยตลอด แล้วบุ4แน่นอนว่ามันก็ผ่านไปแล้ว เลยทำอะไรไม่ได้ อดเจอน้องรู ก้มหน้ารับชะตากรรม น้องรู พี่ขอโทษจริงๆ ไว้เจอคราวหน้านะรูก ;A;


จบ หรือยังนะ

ผ่านไปอีกปีนึงแล้วค่ะกับอีเวนท์ชาร์จพลังของเรา มีความสุข และสนุกมากๆ ไอดอลยังคงเป็นอะไรที่ช่วยเราไว้ได้เสมอเลยเวลาเราเจอเรื่องแย่ๆ ปีหน้าก็ขอฝากด้วยนะคะไอดอลลล

ใครที่ผ่านมาอ่านเจอ หรือใครที่เป็นแฟนๆน้องจูอยู่แล้ว เราอธิบายอะไรแบบนี้ไม่เก่ง แต่มัตสึอิ จูรินะ เป็นคนที่สมควรที่จะได้รับความรักและพบเจอแต่เรื่องดีๆค่ะ น้องเป็นเด็กที่ใจดีน่ารัก และรักแฟนๆของเค้ามากจริงๆ
หวังว่าบล็อคนี้ (ที่ไม่มีข้อมูลอะไรเลย มีแต่ความรู้สึกของเรา 5555) จะเป็นส่วนช่วยให้ทุกคนหันมาชอบน้องจูไม่ว่าจะมากหรือน้อยนะคะ

ถ้าอยากรู้เรื่องราวอะไรเกี่ยวกับจูรินะจังเพิ่ม เมนชั่นมาถามเรา หรือเพื่อนๆในทวิตได้เลยน้า เรายินดีที่จะตอบให้เสมอเลยค่ะ ^^





สุดท้ายนี้
อัลบั้มโซโล่ของน้องจูเปิดให้สั่งจองกันแล้วนะคะ!



ชื่ออัลบั้มว่า Privacy เพลงในอัลบั้ม9เพลง เป็นเพลงที่จูรินะจังแต่งเนื้อร้องเองทั้งหมด! ว้าว!
นอกจากจะได้เพลงเพราะๆไปฟังแล้ว ทุกแผ่นยังแถมรูปสุ่ม1จาก6แบบด้วยนะคะ สุดยอดดดด
สั่งซื้อได้แล้วที่
https://showroom-records-mall.com/jurinamatsui/products/detail/3
เว็บเป็นภาษาญี่ปุ่น? ไม่ต้องกังวลไป วิธีการสั่งซื้อ ทางนี้ค่ะ
http://jyutopia38.com/gallery/14231

วันที่29นี้ เพลงจะถูกขายในแพลทฟอร์มต่างๆด้วยนะคะ
สำหรับผู้ใช้IOSสามารถเข้าไปกดพรีออเดอร์ได้แล้วค่ะที่
https://music.apple.com/th/album/privacy/1479957180


เท่าไหร่นะคะ 169บาท!! 9เพลง!! จูรินะแต่งเองทั้งหมด
บ้า ราคานี้ คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม เพราะทุกเพลงจริงๆค่ะ ไม่เพราะมาตีเราได้เลย จิง!

ขายของเสร็จ ไปจริงๆแล้วค่ะ ฝากมอบความรักให้น้องจูกันเยอะๆด้วยนะคะ

ขอให้น้องจูหายไวๆ แล้วกลับมาเป็นแสงอาทิตย์ให้พี่อีกครั้งนะคะ พี่จะรอนะ 


จนกว่าจะพบกันใหม่












วันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2562

[แปล] รายการวิทยุ Masana's Hometown วันที่ 10สิงหาคม2019

ในรายการวิทยุมาซานะเมื่อเสาร์ที่ผ่านมามีการเปิดคลิปเสียงจากงาน CBC Radio ที่จัดไปเมื่อวันที่28กรกฎาคมค่ะ เลยเอามาแปลให้อ่านกัน
บทสนทนาค่อนข้างจับฉ่ายมากๆ เหมือนแค่เอาสองคนนี้มานั่งๆคุยกันสัพเพเหระไปเรื่อยๆ แต่เราเห็นว่ามันสนุกและตลกดี 5555 เลยเอามาแปลให้อ่านกันขำๆค่า

แปลไทยเฉพาะในส่วนที่มีจูรินะและมีบทแปลภาษาเกาหลีมาให้ค่ะ


20190810 Masana's Hometown 

มาซานะ : ตั้งแต่เมื่อก่อนเลย จูรินะจะคอยจดบันทึกกิจกรรมต่างๆของมาซานะด้วยล่ะ!
จูรินะ : 555555555
มาซานะ : มันตั้งแต่เมื่อนานมากแล้วจริงๆค่ะ เธอจะคอยบันทึกลงในโทรศัพท์ว่าฉันพูดอะไร หรือทำอะไรบ้าง เคยถามไปว่า จดอะไรเนี่ย? แต่ก็ได้รับคำตอบมาว่า 'ก็มันสนุกดี' ค่ะ
จูรินะ : พวกคำพูดเหล่านั้นสักวันจะกลายเป็นเรื่องเอาไว้เล่าได้ ก็แค่นั้นแหละ~   
มาซานะ : แต่ว่า! เธออาจจะไม่ได้เอาไปเล่าจริงๆก็ได้ บางครั้งก็คิดนะว่าจะจดไปเพื่ออะไรเนี่ย หรือไม่ก็คิดว่า หรือว่าจะเอากลับไปอ่านที่บ้านแล้วหัวเราะลั่นรึเปล่านะ
จูรินะ : อ่า นั่นก็เคยแหละนะ...
มาซานะ : เฮ้ย!
จูรินะ : เรื่องนั้นก็เคยอ่ะนะ แต่เวลาโดนถามในรายการอย่างเช่น 'มีเรื่องเล่าสนุกๆมั้ย~?' แบบนี้ ก็เลยต้องบันทึกเอาไว้จะได้นึกออกยังไงเล่า! ส่วนวันนี้ถ้าถามว่าจำอะไรได้ล่ะก็...
มาซานะ : เอ๋ แต่ว่านะ ฉันก็ลืมไปแล้วแหละว่ามันมีอะไรบ้าง ก็อยากจะฟังอยู่แหละนะ...
จูรินะ : งั้นจะให้เอาออกมาเหรอ
มาซานะ : อือ
จูรินะ : แต่มันเป็นบันทึกที่เลอะเทอะมากเลยนะ 55555
มาซานะ : เลอะเทอะ 555555
จูรินะ : เอาล่ะ งั้นจะเล่าให้ฟังค่ะ มีสามเรื่อง
มาซานะ : อะไรอ่ะ?
จูรินะ : เรื่องแรกเลย อันนี้มาจากข้อความที่ได้รับจากมือถือมาซานะค่ะ เธอส่งมาว่า ''พรุ่งนี้ต้องตั้งลูกศร(ยาจิรุชี่)เอาไว้นะ'' ฉันก็เลยถามกลับไปว่า ''พรุ่งนี้ต้องตั้งลูกศรเอาไว้นะคืออะไรอ่ะ?'' ''อ๋า นาฬิกาปลุก(เมจะมาชี่)น่ะ'' แล้วก็อีกเรื่องค่ะ อันนี้เป็นตอนที่ไปร้านกาแฟแล้วก็นั่งคุยกันปกติ เป็นช่วงฤดูแพ้เกสรดอกไม้น่ะค่ะ ฉันน่ะแพ้พวกเกสรตอนฤดูใบไม้ร่วง ก็เลยบอกไปว่า ''ฉันแพ้เกสรช่วงฤดูใบไม้ร่วงอ่ะ~'' แต่เธอดันพูดว่า ''อ๋อ!หมายถึงพวกฝ้า(คาสะบูตะ)อ่ะเหรอ?'' แต่จริงๆแล้วคือหญ้า Ragweed (บูตะคาสะ)ต่างหากเล่า ยังมีอีกค่ะ ตลกใช่มั้ยล่ะคะ? อีกเรื่องนึง คือว่า มาซานะบอกว่าชอบเพลง Stand by you ซึ่งเป็นของSKEมากเลยค่ะ เพราะงั้นตอนที่ไปคาราโอเกะด้วยกันมาซานะเลยบอกว่า ''มาร้อง Stand by you กันเถอะ จูรินะก็มาร้องด้วยนะ เดี๋ยวฉันกดเพลงให้เอง! ... อาเร๊ะ? เพลงนี้ใครเป็นคนร้องนะ?'' โกหกรึเปล่าเนี่ย??? แต่เธอดูเป็นธรรมชาติ(ไม่รู้)จริงๆค่ะ 555
มาซานะ : ฉันชอบร้องจริงๆค่ะ 555 แต่ว่า เอ๊ะ ใคร(ร้อง)นะ...? 55555
จูรินะ : เลยบอกไปว่า เดี๋ยวนะ 555 ก็กรุ้ปที่ตัวเองอยู่มาจนถึงเมื่อไม่นานมานี้ไงล่ะ 5555
มาซานะ : ตั้งแต่นั้นมาเลยจำขึ้นใจเลยค่ะ ฮ่าๆๆ 


มาซานะ : นี่เป็นปัญหาจากฉันเองค่ะ
จูรินะ : ปัญหาเหรอ?
มาซานะ : ปัญหาที่ว่า มัตสึอิ จูรินะ พูดคำว่า 'แค่นั้นไม่เป็นไรหรอกน่า' บ่อยเกินไป!
จูรินะ : เคยพูดด้วยเหรอ...? แค่นั้นไม่เป็นไรหรอกน่า...?
มาซานะ : ฉันน่ะเป็นคนใจกว้างมากนะ  
จูรินะ : โกหก!
มาซานะ : จริงๆ~
จูรินะ : โกหกน่า~
มาซานะ : คืองี้นะคะ คือจูรินะเป็นพวกขนาดวันปกติก็สัมภาระเยอะค่ะ
จูรินะ : ใช่แล้วๆ
มาซานะ : เพราะงั้นเวลาไปเที่ยวหรือไปไหนด้วยกัน ก็ต้องซื้อของฝาก สัมภาระมันก็จะเพิ่มขึ้นอยู่แล้วใช่มั้ยคะ แล้วทีนี้ก็เลยโดนวานว่า 'มาซานะช่วยถือนี้ให้เค้าแปปนึงสิ' อยู่บ่อยๆเลยค่ะ ฉันก็ได้แต่คิดในใจว่า 'งั้นก็ช่วยขนของมาน้อยๆหน่อยสิ!' แต่ก็ไม่ได้พูดออกมาค่ะ แต่ว่าก็มีบางทีที่แสดงออกทางร่างกายแทน แล้วพอจูรินะสังเกตุเห็นก็จะพูดว่า 'แค่นั้นเองไม่เป็นไรหรอกน่า' เกิดเหตุการณ์แบบนี้บ่อยเลยค่ะ
จูรินะ : เป็นอย่างนั้นจริงด้วยสิน้า จะว่าไงดีล่ะ อ่า ฉันไม่อยากจะทะเลาะด้วยแท้ๆ!
มาซานะ : มาทะเลาะกันเถอะ!
จูรินะ : เดี๋ยวนะ! ไม่อยากกลายเป็นว่ามาทะเลาะกันจริงๆนะ!
มาซานะ : แก๊ง! (เสียงระฆัง)
จูรินะ : ถ้ามาซานะไม่พูดเค้าก็ไม่รู้หรอกนะ รู้ใช่มั้ย?
มาซานะ : 55555 ก็มันพูดอะไรไม่ได้เลยนี่นา 5555
จูรินะ : ฉันน่ะ ถ้าเห็นมาซานะถือของเยอะก็จะช่วยถืออยู่แล้วแหละน่า~ 
มาซานะ : ก็ใช่
จูรินะ : เข้าใจมั้ย? ในแง่ของการเป็นคนช่วยเหลือ... ตอนนี้ฉันพูดสำเนียงถิ่นออกมาไม่หยุดเลยค่ะ ในแง่นั้นก็มีได้พูดคำว่า 'แค่นั้นเองไม่เป็นไรหรอกน่า'อยู่เหมือนกันค่ะ  
มาซานะ : ฉันเองก็ถ้า(เขา)ไม่พูดก็จะไม่รู้ตัวเหมือนกัน
จูรินะ : ใช่มั้ยล่า~?
มาซานะ : ต่อไปก็พูดออกมานะ
จูรินะ : ได้เหรอ? ใจดีจัง ฮ่าๆๆ
มาซานะ : หากไม่พูดก็จะไม่รู้ตัวมันก็จริงแหละ แต่รู้อยู่ใช่มั้ยล่ะว่าพูดคำนั้นมากเกินไปจริงๆ? 
จูรินะ : ก็ใช่ แค่นั้นเองไม่เป็นไรหรอกน่า...เหมือนกับว่า หากเป็นเรื่องที่ฉันเองก็ทำให้ได้ล่ะก็คงไม่เป็นไรหรอกน่า~ คิดแบบนี้ค่ะ 
มาซานะ : อ๋าาาา
จูรินะ : ฉันเองก็ทำให้ได้ทุกเมื่อเหมือนกันนี่นา! เพราะงั้นแล้ว เลยพูดไปว่า แค่นี้เองไม่เป็นไรหรอกน่า 
มาซานะ : งั้นมาตรฐานต้องสูงน่าดู! เพราะจูรินะเก่งไปซะทุกอย่างเลยค่ะ
จูรินะ : ไม่ใช่อย่างนั้นซะหน่อย~
มาซานะ : เพราะเก่งไปหมดทุกอย่าง เพราะงั้น คู่ก็ต้องเก่งมากๆ แต่ว่าคนที่อยู่ข้างๆดันเป็นคนที่ทำอะไรไม่เป็นเลยแบบฉัน...
จูรินะ : ไม่หรอกๆๆ ทำได้สิ ทำได้!
มาซานะ : ...จริงเหรอ?
จูรินะ : ทำได้จริงๆ
มาซานะ : ทำได้เหรอ? ฉันทำอะไรได้ บอกมาหน่อย
จูรินะ : 55... ก็สามารถสร้างบรรยากาศดีงามได้
มาซานะ : นั่นคือคำชมใช่มั้ยห้ะ? 5555


มาซานะ : เรื่องที่แฟนๆไม่รู้ ของจูรินะ? หรือของฉัน?
จูรินะ : แต่ว่าแฟนๆก็คงดูรู้หมดแล้วมั้งว่าฉันเป็นคนขี้เหงาแล้วก็ขี้อ้อน...
มาซานะ : อือ รู้ด้วยว่าขี้เอาแต่ใจ 
จูรินะ : 555 งั้นเหรอ ขี้เอาแต่ใจงั้นเหรอ ฉันว่าฉันก็เอาแต่ใจแหละ 5555
มาซานะ : ใช่ไง ฮ่าๆๆ
จูรินะ : แต่ฉันคิดว่าการที่พูดออกไปเพราะอยากทำให้อะไรๆมันดี ไม่ใช่การเอาแต่ใจนะ ฉันน่ะ
มาซานะ : อื้อ!
จูรินะ : ฉันว่านั่นคือความคิดเห็นมากกว่า จะเรียกว่าไอเดียก็ได้ เวลาได้ยินว่านั่นคือการเอาแต่ใจแล้วฉันเศร้านะ
มาซานะ : นั่นสินะ 
จูรินะ : เพราะมาซานะน่ะรู้อยู่แล้วไงล่ะ คนที่เข้าใจน่ะ ยกตัวอย่างนะ เค้าก็จะพูดอย่างเข้าอกเข้าใจว่า เพราะว่าจูรินะนึกถึงSKEบ้างล่ะ ที่พูดแบบนั้นเพราะว่านึกถึงกรุ้ปบ้างล่ะ แต่คนที่ไม่เข้าใจก็จะไม่เข้าใจ ทั้งที่อยากจะส่งต่อความรู้สึกของเด็กๆที่อยู่มาตั้งแต่แรกเริ่มไปให้ หรือไม่ก็ความรู้สึกของรุ่นหนึ่งอะไรแบบนี้  แต่ก็นั่นแหละ คนที่ไม่เคยอยู่ตรงนั้น ไม่ว่าจะทำยังไง คำพูดต่างๆก็ไม่อาจส่งไปถึงได้
มาซานะ : มีเพลงที่พูดถึงคำพูดที่ส่งไปไม่ถึงบ้างมั้ยนะ?
จูรินะ : ... ฉันว่ามีนะ น่าจะมีเยอะเลยด้วย เพลงแบบนั้นน่ะ 555
มาซานะ : มีเนอะ? อ่า โทษที แล้วไงต่อ?    
จูรินะ : 5555555 เพราะงั้นล่าสุดนี้ก็เลยมีเรื่องกลุ้มน่ะสิ เพราะกลายเป็นรุ่นหนึ่งคนเดียวแล้ว คนที่จะมาส่งต่อความรู้สึกต่างๆในอดีตก็ไม่มีแล้ว ยูอาสะซังเองก็ไม่อยู่แล้ว 
มาซานะ : เอ๋ ไม่อยู่แล้วเหรอ?
จูรินะ : โทษนะ ไม่รู้เหรอ?
มาซานะ : อือ
จูรินะ : ใช่ ไปจาการ์ต้าน่ะ
มาซานะ : เอ๋~ไปต่างประเทศเลย!
จูรินะ : ใช่ ไปซะแล้ว
มาซานะ : อย่างนี้นี่เอง ซาโยนาระ~
จูรินะ : ซาโย 555555 นาระ 555555 แต่ว่าดูน่าสนุกใช่มั้ยล่ะ? ไปต่างประเทศคนเดียวเลย! อิจฉาเนอะ? ใช่มั้ย?
มาซานะ : เนอะ 
จูรินะ : ฉันเลยโดนทิ้งเลย
มาซานะ : ก็เลยกลายเป็นว่าเหลือตัวคนเดียวแล้วสิน้า~
จูรินะ : เศร้าค่ะ เหลือตัวคนเดียวจริงๆแล้วค่ะ ในที่สุด ในที่สุดก็โดดเดี่ยว 
มาซานะ : แต่ว่านะ ถ้าเรียกล่ะก็ จะไปร่วมด้วยทุกเมื่อเลย 
จูรินะ : เอ๋? จะมาขึ้นเวทีหรอ? 
มาซานะ : เปล่า ไม่ได้จะไปขึ้น 
จูรินะ : หมายความว่าไงเนี่ย 555
มาซานะ : จะอยู่เคียงข้างจูรินะไม่ว่าเมื่อไหร่เลย 
จูรินะ : ...ว่างขนาดนั้นเลยเหรอ
มาซานะ : คือว่า ขอแค่ค่ารถ...
จูรินะ : เดี๋ยวๆ 555555
มาซานะ : รบกวนด้วยค่า~


มาซานะ : เอาล่ะ นี่สุดท้ายแล้ว สุดท้ายแล้วนะคะ เมื่อกี้ฉันพูดไปว่าจูรินะน่ะเก่งไปซะทุกอย่าง 
จูรินะ : ไม่หรอกน่า
มาซานะ : ฉันว่าทุกคนก็คงรู้อยู่แล้วว่าเธอน่ะเก่งทุกเรื่อง เป็นเด็กที่แสนเพอร์เฟค 
จูรินะ : ไม่หรอกๆ ฉันกลัวผีนะ ไม่กล้าเข้าบ้านผีสิงด้วย 
มาซานะ : แต่ยิ่งไปกว่านั้นก็ลามไปถึงเรื่องดวงด้วยค่ะ เป็นคนดวงดีมากๆ 
จูรินะ : อย่างงานจังเก้นน่ะเหรอ?
มาซานะ : ส่วนฉันนี่อะไรไม่รู้...
จูรินะ : เมินฉันไปเลยงั้นเหรอ 555555
มาซานะ : ใช่ อย่างงานจังเก้นก็ใช่ 
จูรินะ : เกิดเรื่องแบบนี้อยู่บ่อยๆค่ะ 55555 ปกติก็เป็น 5555 
มาซานะ : อือ ใช่แล้ว... โทษที
จูรินะ : เอ๋? ไม่เป็นไรสักหน่อย 
มาซานะ : ดังนั้น ฉันเลยคิดว่าอยากจะเอาชนะจูรินะสักครั้งค่ะ เพราะไม่เคยชนะเลยสักครั้งเดียว ไม่เคยเลย! ทั้งเรื่องทำอาหาร ทั้งเรื่องดวง
จูรินะ : จริงเหรอเนี่ย...?
มาซานะ : เพราะไม่เคยชนะเลย เพราะงั้นวันนี้ล่ะนะ!
จูรินะ : แต่ฉันว่าดูทางฝั่งมาซานะน่าจะดังกว่าแฮะ  
มาซานะ : อ่า คิดแบบนั้นเหรอ คิดแบบนั้นจริงๆสินะ 
จูรินะ : 555 ฉันคิดว่ายังไงมาซานะก็ดังกว่าอ่ะ
มาซานะ : งั้นเหรอ อย่างนั้นเองเหรอ? งั้น(จูรินะ)คงจะลำบากหน่อยแล้ว
จูรินะ : คิดงั้นแหละ แล้วเป็นไงบ้างคะ?
มาซานะ : คงจะลำบา.....
จูรินะ : เป็นยังไงบ้างคะ?!  
มาซานะ : ดังค่ะ ฮ่าๆๆ
จูรินะ : แกรดออกไปแล้วเป็นไงมั่งคะ?!
มาซานะ : ค่ะ กำลังดังค่ะ 555
จูรินะ : ดูท่าจะมีแฟนแล้วสินะคะ?!
มาซานะ : ...เรื่องแฟนน่ะ เป็นเรื่องอนาคตแสนยาวไกล...
จูรินะ : 5555 (แฟนๆ)ดูสบายใจกันเลยนะคะเนี่ย
มาซานะ : ใช่ แต่ว่านะคะ ฉันคิดเอาไว้ว่าวันนี้อยากจะชนะเธอต่อหน้าทุกคนค่ะ อยากตัดสินกันไปเลยว่าใครดวงดีกว่า เพราะจูรินะน่ะเป็นคนดวงดีมากๆเลย
จูรินะ : พูดแบบนั้นแล้วรู้สึกกดดันยังไงไม่รู้!
มาซานะ : ฉันน่ะเป็นคนไม่ค่อยจะมีดวง เพราะงั้นถ้าชนะจูรินะได้ล่ะก็
จูรินะ : งั้นเหรอ?
มาซานะ : เอ๋? ไม่รู้หรอกเหรอ? ฉันดวงแย่จริงๆ! โดนนกอึใส่ตั้งหลายรอบแล้ว
จูรินะ : 5555555 อย่างนั้นเอง 55555555 แต่ถ้ามองอีกมุม นั่นน่ะเกิดขึ้นได้ยากมากเลยนะ สุดยอดไปเลยไม่ใช่เหรอ?
มาซานะ : อย่างงั้นเหรอ?
จูรินะ : แล้วการที่เราสองคนได้มาเจอกันก็ถือว่าโชคดีไม่ใช่เหรอ?
มาซานะ : โอ้ เป็นแบบนั้นจริงๆด้วย ต่อไปก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ 
จูรินะ : ฝากเนื้อฝากตัวด้วยค่า~ 5555

มาซานะ : เรื่องดวงนี่สำคัญต่อชีวิตจริงๆนะ
จูรินะ : ใช่แล้ว มีเนื้อเพลงที่ร้องว่า 'โชคก็ถือเป็นความสามารถ' ด้วย 
มาซานะ : มีด้วยแฮะ ...เพลงอะไรเหรอ?
จูรินะ : 'โชคก็ถือเป็นความสามารถ~' (un datte sainou sa) ไง
มาซานะ : อ๋อ ใช่ๆ
จูรินะ : เพลงอะไรล่ะ
มาซานะ : ... ร้องต่ออีกนิดนึงได้มะ นิดเดียว
จูรินะ : โกหกน่า!!! 'zekko choo~'
มาซานะ : Pinocchio Gun!!!
จูรินะ : จริงๆเล้ย 5555 อย่าลืมสิ 5555

<เล่นเกมส์จับคู่ไพ่ Babanuki ผลคือจูรินะชนะ>
จูรินะ : ยัตต้า!
มาซานะ : อ๋าาา เอ๊ะ? แพ้งั้นเหรอ?
จูรินะ : ใช่ 555 แพ้ไปนะคะ 555
มาซานะ : แข็งแกร่งแฮะ สมแล้ว เอ๋~ อุส่าห์เล่นไปขนาดนี้แล้ว สุดท้ายก็...
จูรินะ : แต่นี่มันไม่ใช่เรื่องดวงหรอกนะ
มาซานะ : เรื่องดวงสิ
จูรินะ : มันเป็นเรื่องจิตวิทยา
มาซานะ : เอ๋...อ่านใจคนได้งั้นเหรอ?
จูรินะ : เพราะเราอยู่ด้วยกันมาไง ด้วยนิสัยของมาซานะแล้ว คงจะไม่วางไพ่โจ๊กเกอร์ที่เดียวซ้ำกันสองรอบแน่ๆ ฉันเลยคิดว่าน่าจะเป็นอันนี้
มาซานะ : อย่างนั้นหรอกเหรอ?
จูรินะ : 555 ก็เพิ่งจะพูดแล้วก็เลือกมานี่ไง
มาซานะ : ฉันไม่ได้คิดอะไรไว้เลยก็จริง แต่เพราะจูรินะชนะไป ชีวิตฉันน่ะ...
จูรินะ : ยัตต้ะ รางวัลๆ 
มาซานะ : ...หือ?
จูรินะ : ขอรางวัล
มาซานะ : รางวัล...เอาไว้ทีหลัง...
จูรินะ : ทำอะไรโมเอะๆให้ดูหน่อย 
มาซานะ : พอเลย~~
จูรินะ : 555 ขนาดในรายการของฉันยังทำแล้วเลย 555
มาซานะ : แต่รายการของฉันค่อนข้างจะเป็นรายการที่สุภาพ...
จูรินะ : ถ้างั้นเอาบทโมเอะๆแบบสุภาพๆล่ะเป็นไง? อย่างเช่นพวกเมดซัง
มาซานะ : เอ๋? ไม่เห็นจะต่างกันสักนิด! แย่อ่ะ!
จูรินะ : เมดอะไรงี้ ฮ่าๆๆ
มาซานะ : เอาล่ะ จะเริ่มแล้วนะคะ ทุกๆท่าน ยินดีต้อนรับค่ะ ไว้กลับมาใหม่นะคะ
จูรินะ : ... เอ๋? แค่เนี้ย?! จบแค่นี้เหรอ? ว้าว จบซะแล้ว 555555
มาซานะ : ก็ฉันไม่รู้นี่นา สุดท้ายนี้ให้จูรินะสาธิตให้ดูหน่อยสิ
จูรินะ : สาธิตเหรอ? 
มาซานะ : สาธิต
จูรินะ : เข้าใจแล้ว เอาล่ะ ฉันอยากจะพบคุณอีกนะคะ ถ้ากลับมาอีกล่ะจะได้มั้ยน้า?
มาซานะ : ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
จูรินะ : ขอบคุณงั้นเหรอ ลวกมาก 555 ทำเกินไปแล้วนะ 555

#จูริมาซานะคือแผ่นดิน 


*รบกวนไม่เอาลิงค์ไปแปะข้างนอกนะคั้บบ*
    










      

วันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2561

[แปล] หนังสือพิมพ์ AKB48 ฉบับ เดือนพฤศจิกายน 2018 บทสัมภาษณ์ชูริจูริ (ทาคายานางิ อากาเนะ,มัตสึอิ จูรินะ) PART1



การกลับมา
Q : ก่อนที่จะพูดถึงเรื่องครบรอบปีที่10 จูรินะซัง ยินดีกับการกลับมาด้วยครับ จูรินะ : ขอบคุณค่ะ! อากาเนะ : รออยู่เสมอเลยค่ะ~! จูรินะ : ก่อนงานเลือกตั้งฉันไม่ได้นอนเลยตลอดสามวันค่ะ เพราะแฟนๆเองก็ต่อสู้กับงานเลือกตั้งจนไม่ได้หลับไม่ได้นอนเหมือนกัน ฉันเองจะไม่สู้ก็เห็นทีว่าจะไม่ได้ค่ะ ดังนั้น พอจบงานเลือกตั้งแล้ว ก็ทั้งโล่งใจ ทั้งความเหน็ดเหนื่อยก็ล้นทะลักออกมาเลยล่ะค่ะ Q : ช่วงเวลาสามเดือน ทำอะไรบ้างเหรอครับ? จูรินะ : ฉันแทบจะไม่ออกไปข้างนอกเลยค่ะ ก็แต่งเพลง แล้วก็ทำของจำพวกเครื่องประดับอยู่ที่บ้านค่ะ ทำอาหารทุกวันเลยด้วย มีความเป็นผู้หญิงขึ้นมากเลยค่ะ(หัวเราะ) จริงๆแล้วน้ำหนักขึ้นมา5กิโลด้วย(หัวเราะ) Q : ได้รับรู้เรื่องราวข้างนอกบ้างไหมครับ? จูรินะ : ไม่เลยค่ะ ฉันไม่ดูพวกข่าวอะไรเลย คิดไว้ว่าต้องทำใจให้สงบค่ะ แต่ว่ามีวันนึงจู่ๆก็เกิดอยากดูTVขึ้นมาก็เลยเปิดดู เจอรายการตอบคำถามที่โซวดะ(ซารินะ)จังไปออก ยังคิดอยู่เลยค่ะว่า น่าดีใจจังเลยนะที่ถึงแม้ช่วงที่ไม่มีฉันแต่SKEก็ยังคงพยายามกันอยู่ Q : ช่วงเวลาที่ไม่มีจูรินะซังSKEเป็นอย่างไรบ้างเหรอครับ? อากาเนะ : ช่วงฤดูร้อนก็จะมีทั้งงานมิฮามะ มีอีเวนท์แบบแยกทีมค่ะ คลื่นแรงมากจนฉันไม่สามารถจำเรื่องราวทั้งหมดได้เลยล่ะค่ะ แต่เหมือนที่มิฮามะจะใหญ่ที่สุดหรือเปล่านะ เพราะที่นั่นเป็นคอนเสิร์ตที่SKE48ทุกคนรวมกันเป็นหนึ่งเดียว การที่ไม่มีจูรินะซังอยู่นั้นทำให้เรารู้สึกมากกว่าครั้งไหนๆค่ะ อย่างไรก็ตาม ทีมSน่ะ ได้จัดเซทลิสที่ทุกคนจะไม่มีวันลืม ถึงแม้ว่าจะไม่มีจูรินะซังตัวจริงอยู่ก็ตามล่ะค่ะ จูรินะ : อย่างนี้นี่เอง~ อากาเนะ : แม้ว่าตอนนี้เมมเบอร์อยู่จะพยายามสุดแรงแล้ว แต่ก็มีใส่เพลง Oogoe Daimond ที่จูรินะซังเป็นเซนเตอร์ลงไปด้วยค่ะ ในตอนที่ให้ความสำคัญกับคำว่า ''SKE48น่ะมีจูรินะซังอยู่ด้วยนะ'' การแสดงไลฟ์ให้ทุกคนรับรู้ได้ก็เป็นสิ่งสำคัญค่ะ จูรินะ : การที่ไม่มีฉันอยู่แต่งานก็ดำเนินไปได้ทำให้ฉันรู้สึกเหงาอยู่นะคะ แต่ในทางตรงกันข้าม นั่นก็ทำให้ฉันรู้สึกสบายใจ เหมือนว่า ถ้าฉันจบการศึกษาไปก็คงไม่เป็นไรแล้วค่ะ ถึงแม้จะยังไม่คิดถึงเรื่องจบการศึกษาเลยก็เถอะ เสื้อผ้า
Q : บทสัมภาษณ์เนื่องในโอกาสครบรอบ10ปี ทั้งสองคนก็เลยได้เลือกชุดที่จะใส่เองด้วยนี่ครับ อากาเนะ : ฉันใส่ชุดทีมK2ในคอนเสิร์ตที่นาโกยะโดมมาค่ะ จนถึงตอนนี้เพิ่งใส่ไปแค่สองครั้งเอง หากไม่ใช่ในโอกาสแบบนี้น่ะคงไม่ได้ใส่อีกแน่ๆเลย แล้วนึกไปถึงเรื่องราวเบื้องหลังของชุดแล้ว ก็เลยเลือกชุดนี้มาใส่ค่ะ Q : ตอนนั้นทีมK2ถูกชัฟเฟิลไปแล้วนี่ครับ อากาเนะ : แต่ว่า ฉันคิดว่าชุดนี้ทำขึ้นมาก่อนหน้านั้นค่ะ (ฟุรุคาวะ)ไอริ เมมเบอร์ออริจินัลสเตจ Ramune no Nomikata เป็นคนวาดน่ะค่ะ แล้วอีกอย่าง เพราะมีความรู้สึกที่อยากจะยืนที่นาโกยะโดมด้วยค่ะ ช่วงนี้น่ะ พอพูดถึงหรือนึกถึงเรื่องราวสมัยก่อนแล้วก็มักจะได้ยินว่า ''เธอกำลังดึงเอาเรื่องราวเก่าๆมาพูดนะ'' ค่ะ แต่ว่า ตอนนี้เป็นไทม์มิ่งที่จะได้หวนถึงอดีต เพราะอย่างนั้น ก็เลยเลือกชุดนี้มาค่ะ จูรินะ : ของฉันเป็นชุดจากเพลง Mae no Meri ค่ะ เพราะตอนที่เรนะจังจบการศึกษาเป็นช่วงเวลาที่เจ็บปวดที่สุด นี่เลยเหมือนเป็นเครื่องแสดงว่าตอนนี้หัวใจฉันแข็งแกร่งขึ้นแล้วค่ะ Q: จากเนื้อเพลงก็คือ จงใช้ชีวิตด้วยการทะยานไปข้างหน้าอย่างสุดตัว จูรินะ : เนื้อเพลงก็มีส่วนเกี่ยวข้องแต่ฉันกลับคิดตรงกันข้าม(กับเนื้อ)ค่ะ ท่อนที่ว่า ''แม้พวกผู้ใหญ่จะเคยพูดว่า ค่อยๆเดินไปก็ได้ แต่ฉันก็เลือกที่จะพุ่งทะยานไปข้างหน้า'' สามเดือนที่พักไปนี้ ทำให้ฉันเปลี่ยนความคิดใหม่เป็น ''ค่อยๆก้าวเดินไปข้างหน้าก็ได้'' ค่ะ เหมือนคำที่ผู้ใหญ่ว่า ฉันเองก็เพิ่งจะ21 หากมองไปรอบๆตัวแล้ว ก็มีทั้งคนที่อายุเท่ากัน มีทั้งคนที่เป็นพี่สาว แม้ว่าตลอดสิบปีจนมาถึงตอนนี้ฉันใช้ชีวิตแบบทะยานไปข้างหน้าก็ตาม แต่ตอนนี้ฉันกลับคิดได้ว่า การที่เราค่อยๆทำมันอย่างช้าๆก็ไม่ได้เสียหายไม่ใช่หรอกหรือ รอยเท้า
Q : จากนี้ไปเรามาเข้าเรื่องครบรอบ10ปีกันดีมั้ยครับ หากมองย้อนกลับไป ลองบอกเรื่องที่ประทับใจให้ฟังหน่อยได้ไหมครับ จูรินะ : เริ่มจากสเตจ ''Party ga Hajimaruyo''(ตุลาคม 2008) เลยค่ะ ก่อนหน้านี้ไม่นาน ฉันได้ทำการแสดงร่วมกับเด็กๆ7D2(รุ่น7+ดราฟรุ่น2)บนสเตจครบรอบ10ปีไปค่ะ ตอนนั้นฉันอายุน้อยที่สุด แต่คราวนี้กลับกลายเป็นคนที่อายุมากที่สุดไปแล้วค่ะ เลยรู้สึกได้ถึงประวัติศาสตร์เลย อากาเนะ : ถ้าพูดถึงสเตจล่ะก็ต้อง ''Te wo Tsunaginagara''(กุมภาพันธ์ 2009)เลยค่ะ เป็นสเตจแรกที่ได้ดูหลังจากออดิชั่นผ่านเข้ามาเป็นSKEค่ะ แต่ว่าวันนั้นทั้งจูรินะซังและเรนะซังไม่ขึ้นแสดงล่ะ จูรินะ : เสียใจอ่ะ อากาเนะ : ตอนนั้นทั้งคู่ยุ่งมากเลยนี่คะ(หัวเราะ) แต่ว่าตอนที่ได้ดูสเตจก็คิดว่า ''ฉันเองก็จะได้มาเต้นที่นี่เหรอเนี่ย'' ที่จำได้แม่นเลยคือตอนดูเพลง Kayoubi no yoru, suiyoubi no asa ค่ะ จูรินะ : ทำไมอ่ะ!? อากาเนะ : ก็คิดว่า ''ไอดอลก็ร้องเพลงเท่ขนาดนี้ด้วยเหรอเนี่ย'' ค่ะพอลองไปเสิร์ชดู ก็เลยได้รู้ว่าที่เธียเตอร์นี่จะเต้นกันเอาเป็นเอาตายจนเหงื่อชุ่มเลยค่ะ นั่นเลยเป็นเหมือนภาพลักษณ์ไอดอลในสายตาฉัน รู้สึกตื่นเต้นและชอบมากๆเลยล่ะค่ะ Q : มีนอกเหนือจากนี้ไหมครับ? จูรินะ : Banzai Venus ได้ที่1เป็นครั้งแรก(มีนาคม 2011) แต่เพราะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่ญี่ปุ่น เราเลยดีใจไม่ออกเลยค่ะ อากาเนะ : เพลงc/wอย่าง Ai no Kazu ก็เป็นเพลงออริจินัลเพลงแรกของทีมK2ด้วยค่ะ จูรินะ : ทีมSเคยร้องด้วยล่ะ อากาเนะ : ใช่แล้วค่ะ! เพราะว่าทีมSดันได้ร้องก่อนทีมK2 ฉันเลยร้องไห้หนักมากเลยค่ะ!! แบบว่า ''วันนี้ทีมSร้องเหรอเนี่ย...'' จูรินะ : งั้นเหรอเนี่ย? อากาเนะ : นั่งร้องไห้อยู่ที่บ้านยกใหญ่เลยค่ะ~ คิดว่า ''เป็นเพลงแรกที่K2ได้รับแท้ๆ'' หลังจากนั้นก็ได้ยินมาค่ะว่าแฟนๆโกรธกันมากเลย จูรินะ : ขอโทษน้าชูริ~ อากาเนะ : ถึงอย่างนั้น พอได้ดูคลิปเพลงนี้ในยูทูปก็มีแฟนๆที่บอกว่า ''ช่วยเค้าไว้ได้ในช่วงประสบภัยพิบัติ'' อยู่หลายคนเลยล่ะค่ะ เพลงที่ทีมK2ร้องที่นาโกยะโดมก็คือเพลง Ai no Kazu นี่แหละค่ะ รวมกับชุดที่ใส่ในวันนี้ด้วยแล้ว เต็มไปด้วยความประทับใจค่ะ... Q : มีเพลง Aozora Kataomoi(มีนาคม 2010) ที่ทาคายานางิซังได้รับเลือกเป็นเซมบัติสึครั้งแรกด้วยนี่ครับ อากาเนะ : เพลงนี้เป็นเพลงแรกเลยค่ะที่ฉันได้ถ่ายMVของSKE แต่วันก่อนหน้านั้นถึงเราจะซ้อมกันไปเยอะมากแล้วก็จริง พอถึงถ่ายทำจริงๆก็หลงลืมท่าเต้นกันหมดเลย(หัวเราะ) จูรินะ : ใช่ๆ! เพราะว่ามีแฟนๆยืนล้อมรอบอยู่ก็เลยตื่นเต้นน่ะสิ อากาเนะ : ยังจำได้อยู่เลยค่ะว่า ทั้งส่งเสียง''เย้!'' ทั้งช่วยปรบมือให้จังหวะให้ด้วย จูรินะ : ทั้งช่วยร้องว่า A~ozo~ra Kataomoi! จูรินะ/อากาเนะ : (หัวเราะ) อากาเนะ : ดังนั้นก็เลยต้องขอโทษว่า ''จะกลับไปฝึกซ้อมกันมาใหม่นะคะ'' แล้วก็เลิกกองน่ะค่ะ จูรินะ/อากาเนะ : (หัวเราะ) อากาเนะ : เพราะงั้นแล้ว เดี๋ยวนี้เด็กรุ่น7รุ่น8ที่จู่ๆก็โดนให้ยืนเซนเตอร์แล้วยังเต้นได้เป๊ะๆนี่สุดยอดไปเลยค่ะ จุดเปลี่ยน
Q : 10ปีมานี้ ผมคิดว่าจะต้องมีจุดเปลี่ยนที่เป็นประวัติศาตร์หลายรอบแน่ๆครับ จูรินะ : ของฉันเป็นตอนที่(มิยาซาวะ)ซาเอะจังจบการศึกษาค่ะ(มีนาคม 2016) ทั้ง(คิตะกะวะ)เรียวฮะ ทั้ง(มัตสึโมโตะ)จิคะโกะ มีเมมเบอร์ที่เป็นเด็กขี้อ้อนหลายคนก็จริง แต่พอซาเอะจังไม่อยู่แล้ว ทุกคนก็เข้มแข็งขึ้น เหมือนกับว่า ''ถ้าไม่จริงจังก็คงไม่ได้การแล้ว''ค่ะ ตอนนี้ทีมSน่ะสุดยอดไปเลย ตอนนั้นฉันคิดว่า ''Sเนี่ยมีความสามัคคีกันสุดๆ'' ค่ะ ตอนนี้เรียวฮะก็เป็นลีดเดอร์ของSแล้ว มีตัวอย่างเป็นซาเอะจังค่ะ อากาเนะ : ช่วงปี2015ที่นากานิชิ(ยูกะ)ซัง,มิเอะปี้(ซาโต้ มิเอะโกะ),ไอริ จบการศึกษาหรือเปล่านะ เพราะคนที่สนิทกันแม้ในชีวิตประจำวันทุกคนจะไม่อยู่แล้วนี่คะ ตอนนั้นก็คิดว่า ''หรือจะจบไปพร้อมไอริเลย'' ดี ''หรือพร้อมเรนะซัง'' ดีค่ะ ถึงจะคิดแบบนั้น แต่ว่าทุกๆคนน่ะตัดสินใจได้แล้วนี่คะว่าอยากจะทำอะไรต่อไป ด้วยคำคำนั้น ฉันเลยตระหนักได้ค่ะว่า ''ฉันน่ะยังไม่ใช่ตอนนี้หรอก'' ค่ะ ก่อนหน้า(ที่ทุกคนจะแกรด)นั้นฉันเป็นฝ่ายที่คอยแต่พึ่งพาอาศัย ถึงแม้ว่าอะไรแบบนั้นจะต้องจบลง ฉันก็ตัดสินใจว่าจะอยู่SKEต่อไปค่ะ แต่ว่า ตั้งแต่นั้นมา ก็เริ่มได้ยินแฟนๆพูดว่า ''SKE48กำลังอยู่ในช่วงขาลง''ค่ะ จูรินะ : ได้ยินอยู่... แต่ว่า พอได้ยินสองคนนั้น(นิชิชิ/มิเอะปี้)พูดออกมาว่า ''การจบการศึกษาในตอนนี้สำหรับพวกเรา คือหมายถึงการทุ่มเทของทุกคนนะ ดังนั้นก็เลยต้องเป็น''ตอนนี้''ไง ถึงแม้ว่าจะอยากอยู่ต่ออีกหน่อยก็เถอะ...'' นั่นทำให้เรารวมพลังกันเป็นหนึ่งเดียวได้ค่ะ อากาเนะ : อยากจะแสดงให้เห็นค่ะว่า ไม่ใช่ว่า ''เพราะใครบางคนจบ วงก็เลยจบ'' ช่วงเวลาที่เคยมีอยู่เหล่านั้นน่ะ ตอนนี้ฉันสัมผัสได้ถึงการเริ่มก้าวขึ้นไปอีกครั้งแล้วค่ะ

วันเสาร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2561

[แปล] 181019 MAiDiGi TV / ทอร์คอีเวนท์คัมภีร์เสื้อผ้า SKE48

181019 MAiDiGi TV / ทอร์คอีเวนท์คัมภีร์เสื้อผ้า SKE48



Q : สุดท้ายนี้ ผมอยากจะถามเรื่องที่นอกเหนือจากSKE48บ้าง ซิงเกิ้ลล่าสุดของAKB48อย่าง Sentimental Train เพลงนี้นอกจากสุดะซัง มัตสึอิจูรินะซัง แล้วก็ยังมีเมมเบอร์SKE48เข้าร่วมอีกหลายคนเลย ในฐานะที่มีเมมเบอร์SKE48เข้าร่วมเยอะมาก คายาโนะ(ชิโนบุ)ซัง ได้มีการออกแบบโดยอิงจากอิมเมจของSKEบ้างไหมครับ?

ชิโนบุ : ฉันเขียนลงไปในหนังสือแล้วก็จริงนะคะ แต่ชุดลายตารางสีเหลืองที่ปรากฎในMVนั่น ก็เพราะว่าจูรินะและดาสุเป็นที่1ที่2 ฉันเลยอยากให้สีของSKEนั้นเด่นชัดขึ้นมาค่ะ ดีไซน์เป็นชุดนักเรียนแบบ Classical ส่วนสีเหลือและเขียวก็เป็นเทรนด์สีที่ได้รับความนิยมในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวประจำปี2018 ฉันตั้งสองสิ่งนั้นเป็นเมน แล้วออกแบบโดยให้ความสำคัญกับความเป็นSKEค่ะ แล้วโลเคชั่นก็ดูเป็นอนาคตหน่อยๆ ก็เลยคิดว่าหากทำให้สัมพันธ์กันได้ก็คงจะดีนะ ชุดสีเหลือลายตารางที่อยู่ในMVนั้น จึงเป็นชุดที่สื่อถึงความเป็นSKEค่ะ One-Two Finish (ที่มาจากวงเดียวกัน)แบบนี้ ไม่มีมาซักพักแล้วด้วยแหละ

อาการิน : ค่ะ ยิ่งไปกว่านั้นคือมาจากวงน้องด้วย

ชิโนบุ : จริงสิ ตอนที่ถ่ายMVน่ะ พอได้ยินสตาฟพูดว่า ''พาคนที่ดูเหมือนจูรินะสุดๆมาด้วยล่ะครับ'' ฉันยังพูดเลยว่า ''ไม่ ไม่มีทางมี(คนแบบนั้น)แน่นอน'' ถึงจะคิดว่ายังไงก็ใช้ไม่ได้แน่ๆ แต่กลายเป็นว่ารูปร่างน่ะเหมือนสุดๆไปเลยเนอะ? 

อาการิน : ใช่แล้วล่ะค่ะ 

ชิโนบุ : เหมือนจนฉันยังคิดเลยว่า ''ไปหามาจากไหนกันเนี่ย''

อาการิน : แบบว่า ด้านหลังน่ะ

ชิโนบุ : ใช่มั้ยล่ะ เหมือนจนฉากที่จูรินะกับดาสุต้องอยู่ด้วยกันฉันยังแบบ ''เอ๊ะ?'' เลย

อาการิน : อื้ม ใช่แล้วล่ะค่ะ แบบว่ายังไงดี ถึงตัวเธอจะไม่อยู่ก็ตาม แต่เพราะใส่ความเป็นSKEลงไปอย่างมาก ฉันหมายถึง ไม่ใช่แค่ความเป็นSKEแต่รวมไปถึงความเป็นจูรินะซังด้วยน่ะค่ะ ในบรรดากลิ่นอายเหล่านั้น ฉันเองก็คิดว่า เรื่องเสื้อผ้าก็เป็นสิ่งสำคัญเหมือนกันเนอะ   






Q : ในรายการเพลงทางTVจูรินะซังก็ไม่ได้ปรากฎตัวตั้งแต่ครั้งแรกด้วย แต่แน่นอนว่าชุดของจูรินะซังต้องมีการออกแบบไว้แล้ว ในวันที่จูรินะซังกลับมา นับได้ว่าชุดของ Sentimental Train นั้นสมบูรณ์สักที
อยากทราบความรู้สึกของคายาโนะซังตอนที่ได้เห็นจังครับ

ชิโนบุ : ปกติแล้วเวลาออกแบบฉันจะออกแบบให้สัมพันธ์กับอันดับเลือกตั้ง ดีไซน์ของอันดับ1, อันดับ2และ3, อันดับ4ถึง7 เพราะมีการออกแบบให้สำหรับลำดับที่1อยู่แล้ว ถึงจะลังเลในตอนแรกก็ตาม แต่ก็ส่งไลน์ไปบอกจูรินะค่ะว่า ''มีดีไซน์ของอันดับที่1ไว้แล้วนะ'' แต่เพราะเธอเป็นคนที่ทำงานหนักมาตลอด หากฉันบอกอะไรไปในทำนองว่า ''ฉันจะรอนะ'' ในสถานการ์ณที่สภาพร่างกายของเธอไม่สมบูรณ์ล่ะก็อาจจะทำให้กดดันค่ะ ก็เลยบอกไปว่า ''เมมเบอร์SKEกำลังรออยู่นะ ทุกๆคนกำลังตั้งใจเต็มที่จนกว่า(จูรินะ)จะสามารถกลับมาได้'' ''ดังนั้นแล้วสบายใจได้! ชุดก็มีแล้ว ท่าเต้นก็มีแล้ว พักผ่อนให้สบายใจ พอหายดีแล้วค่อยกลับมานะ'' แต่ฉันน่ะคิดว่าจะนานกว่านี้เสียอีกนะคะ โชคดีจังเลยค่ะที่เธอได้กลับมาที่เวที Music Station อย่างปลอดภัย ตอนที่กำลังจัดทำหนังสือเล่มนี้ ฉันเคยคิดค่ะว่า ''สักครึ่งปีจะหายหรือเปล่านะ'' ด้วยล่ะค่ะ แต่ดีมากเลยค่ะที่เธอกลับมาปรากฎตัวได้แล้ว วันนั้นน่ะ เธอตื่นเต้นมากๆอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยเนอะ? 

อาการิน : ค่ะ โอจูริจังตื่นเต้นสุดๆไปเลย

ชิโนบุ : เอาแต่จับมือ(อาการิน)ไว้ตลอดเลย 

อาการิน : จับมือที่ชื้นเหงื่อนั้นไว้ตลอดเลยค่ะ 555 

ชิโนบุ : เนอะ ไม่ค่อยได้เห็นเลย ปกติแล้วเธอจะไม่แสดงท่าทางตื่นเต้นให้พวกเราเห็น

อาการิน : ใช่แล้วค่ะ เป็นรุ่นพี่ที่ตั้งใจทำงานมาเสมอโดยที่ไม่แสดงความอ่อนแอออกมาให้เห็นเลย แต่หลังจากพักไปนี่เหมือนว่าเธอจะเริ่มเกิดความคิดว่าถ้าไม่เอาแต่ใจตัวเองล่ะก็คงจะไม่ไหว ก็เลยกลายเป็นคนขี้อ้อนไปแล้วค่ะ แต่ว่าสำหรับพวกเราน่ะ ที่จนถึงตอนนี้ไม่ค่อยจะเป็นฝ่ายถูกอ้อนเท่าไหร่ การที่ได้เอาอกเอาใจเธอก็เลยทำให้พวกเรามีความสุขค่ะ เหมือนว่า นี่เป็นโอกาสที่จะทำให้รู้สึกถึงความเป็นSKEอีกครั้งรึเปล่านะ ค่ะ  



Q : ขอบคุณมากครับ วันที่ต้นฉบับหนังสือเล่มนี้ตีพิมพ์ออกมาตรงกับวันที่จูรินะซังไปออกรายการ Music Station พอดี สุดท้ายแล้วคายาโนะซังได้รับคอมเมนท์จากจูรินะซังที่นั่นเลยใช่ไหมครับ?

ชิโนบุ : อ๋า จริงสิ ตรงนั้นน่ะจูรินะตื่นเต้นเอามากๆเลยค่ะ ฉันคิดว่าหากทำให้เธอคลายความตื่นเต้นได้ก็คงจะดี ก่อนจะแก้ไขรอบสุดท้าย ก็เลยบอกเธอว่า ''จูรินะ นี่ความลับนะ'' แล้วก็เอามันให้เธอดูค่ะ เธอพูดว่า ''ว้าว เยอะมากเลย'' แล้วก็ ''ว้าว ฉันเดี่ยวๆเลยนี่'' ''ทำยังไงเหรอ? ฉันไม่ได้ไปถ่ายสักหน่อยนี่นา~'' ฉันเลยบอกไปว่า ''จริงสิ อันนี้น่ะไปขอมาจากAVEX รูปตอนจูรินะถ่ายปกซิงเกิ้ลไง'' เธอก็บอกมาค่ะว่า ''ว้าว สุดยอดไปเลยเนอะ'' ดังนั้นฉันเลยขอว่า ''ตรงนี้ต้องใส่คอมเมนท์ลงไปด้วยนะ ถ้าจะให้ตอบตอนนี้จะได้มั้ย?'' เธอก็ตอบว่ามา ''ตอบได้สิ!'' ค่ะ 555 ดังนั้นก็เลยได้รับคอมเมนท์ตรงนั้นแล้วก็รีบส่งไปเลยค่ะ แต่ว่านะ ถึงฉันจะบอกจูรินะไปว่า ''เป็นความลับ'' ก็เถอะ แต่หลังจากนั้นฉันก็เอาไปให้ดาสุดูต่อทันทีเลยค่ะ

อาการิน : จุ๊ๆ~ แต่ว่านะคะ ยังไงเรื่องที่เอาไปให้จูรินะซังดูเป็นคนแรกก็ไม่เปลี่ยนไปซะหน่อย

ชิโนบุ : ใช่แล้ว เอาแต่พูดว่า ''ดูสิๆ เล่มสมบูรณ์แล้ว~'' ''สุดยอดไปเลย''   

อาการิน : ถ้าอ่านคอมเมนท์โดยด้วยความรู้สึกว่า นี่เป็นคอมเมนท์ในวันที่เธอกลับมาแบบสดๆร้อนๆเลยนะ ความรู้สึกจะต้องต่างออกไปแน่นอนค่ะ 

วันพฤหัสบดีที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2561

[แปล] 181016 ส่วนหนึ่งของบทสัมภาษณ์ ทาคายานางิ อากาเนะ,ไซโต้ มากิโกะ,โอบะ มินะ จาก zakzak.co.jp

*ตัดมาเฉพาะส่วนที่พูดถึงจูรินะ*
**ไม่ได้แปลตรงจากญป. โปรดใช้วิจารณญานในการอ่านค่ะ ฮาาาา**




Q : มัตสึอิจูรินะซังที่พักงานไปนานก็กลับมาแล้ว แต่ดูเหมือนว่าสภาพร่างกายจะยังไม่กลับมาสมบูรณ์ ทุกๆคนได้พูดคุยแลกเปลี่ยนอะไรกับจูรินะซังบ้าง?

มากิโกะ : ฉันได้เจอเธอก่อนหน้าที่เธอจะไปขึ้นสเตจเพื่อแจ้งข่าวการกลับมาค่ะ ในขณะที่เรากำลังซ้อมเพลง Glory Days เพื่อขึ้นคอนรีเควสอยู่ จู่ๆจูรินะซังก็เข้ามา พร้อมกับร้องเพลงนั้นไปด้วยค่ะ อารมณ์เหมือนว่า ''ตัวจริงมาแล้วจ้าาา'' ค่ะ (หัวเราะ) 


Q : เหมือนพวกรายการก็อปปี้โชว์(หัวเราะ)

มากิโกะ : ประมาณนั้นเลยค่ะ ทั้งดีใจด้วยอะไรด้วย ถึงแม้ว่าสีหน้าจะดูดีขึ้นมากก็ตาม แต่เหมือนว่าความกังวลที่ต้องไปยืนต่อหน้าแฟนๆที่ไม่ได้พบมานานจะมากเกินไป เธอเลยบอกว่า ''ฉันมาเพื่อขอให้ทุกคนทำให้ฉันคลายความตื่นเต้นน่ะ'' ฉันเองก็กอดเธอไว้ บอกเธอว่า ''ยินดีต้อนรับกลับนะคะ'' แล้วก็ไปส่งเธอค่ะ

อากาเนะ : ส่วนฉัน ถึงจะได้คุยกับเธอแค่นิดหน่อยก่อนที่จะขึ้นไปทักทายแฟนๆ แต่เธอก็พูดออกมาว่า ''SKE48เนี่ย เป็นที่ที่เบาใจได้จริงๆ'' พอได้ยินเธอพูดว่า ''ช่วงที่พักงานไปก็มีเรื่องให้คิดมากมาย แต่ฉันเลิกเป็นSKE48ไม่ได้ ฉันน่ะชอบSKE48จริงๆ อยากจะตั้งใจพยายามไปในที่แห่งนี้'' แล้วก็เหมือนจะร้องไห้เลยค่ะ 

มินะ : ฉันได้คุยกับเธอเมื่อตอนMusic Station(วันที่7กันยา) วันนั้นเธอตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลาเลย ทั้งตอนซ้อมและตอนสแตนบายก็ไม่ยอมอยู่ห่างเมมเบอร์SKE48เลยค่ะ ''ถ้าตื่นเต้นขนาดนี้อาจจะเต้นไม่ออกก็ได้ ทำยังไงดี'' พอเธอพูดแบบนี้แล้ว ก็รู้สึกว่านี่เป็นครั้งแรกที่เห็นจูรินะซังเป็นแบบนี้เลย

มากิโกะ : ไม่ได้ออกมายืนต่อหน้าผู้คนเลยตั้งเกือบ3เดือนแล้วต้องมาออกรายการทั่วประเทศเลย ต้องกลัวมากๆอยู่แล้วแหละ

มินะ : ดังนั้นแล้ว ถึงแม้ว่าฉันเองก็ตื่นเต้น ระหว่างนั้นก็เลยเปลี่ยนท่าทางตัวเองใหม่ ทำเป็นเหมือนเรื่องปกติค่ะ บอกไปว่า ''ใช่แล้วล่ะ จูรินะซัง มีคนกำลังดูอยู่ทางTVเยอะเลย! เพราะงั้นแล้ว มาสนุกไปด้วยกันเถอะ!'' รึเปล่านะ(หัวเราะ) เพราะงั้น ใบหน้าของเธอก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม เธอบอกว่า ''นั่นสินะ ถ้าไม่สนุกสนานร่าเริงล่ะก็ไม่ได้การแน่'' แต่ว่านะ ตอนออกอากาศคงจะตื่นเต้นอย่างที่คาดไว้ หลังจากจบรายการแล้วร่างกายก็เลยเหมือนหมดพลังไปเลยค่ะ

อากาเนะ : สมัยก่อนเธอเป็นคนที่ไม่ยอมแสดงความอ่อนแอออกมาให้ใครเห็นค่ะ ตอนนี้ก็ยอมแสดงด้านนั้นให้เห็นแล้ว ในทางกลับกันคือเธอรู้สึกวางใจแล้วรึเปล่านะ

มินะ : เข้าใจ(ความรู้สึกนั้น)เลย! รู้สึกว่า เป็นที่พึ่งได้แล้วรึเปล่านะเนี่ย ค่ะ

อากาเนะ : แต่ว่านะ พอถึงเวลาที่ต้องไปยืนบนเวทีจริงๆแล้วก็เหมือนเปิดสวิตช์เลยล่ะ แบบว่า แว้บ ''คนที่ตื่นเต้นๆอยู่จนถึงเมื่อกี้หายไปไหนแล้วล่ะ?'' เลยล่ะค่ะ(หัวเราะ) ก็แบบว่า นี่สินะโปร~ คิดมาตั้งแต่สมัยก่อนแล้วค่ะ เพราะว่าเธอเปลี่ยนไปจริงๆค่ะเมื่อได้ยืนบนเวที   

วันพุธที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2561

[แปล] นิตยสารแฟลช ประจำวันที่ 23 ตุลาคม 2018 บทสัมภาษณ์มัตสึอิจูรินะ


J : จะแสดงให้เห็นถึง 'กราเวียร์ของมัตสึอิจูรินะ' ที่แฟนๆทุกคนคิดถึงเองค่ะ!

ก่อนที่จะถึงงานเลือกตั้งทั่วไปในเดือนมิถุนายน เธอคนนี้ให้สัญญาเอาไว้ว่าหากได้เป็นที่หนึ่งจะกลับมาถ่ายกราเวียร์กับเรา ใน 'งานเลือกตั้ง AKB48 World Senbutsu' ที่จัดขึ้นเนื่องในโอกาสครบรอบปีที่10 และเธอ คือมัตสึอิจูรินะผู้คว้าอันดับที่หนึ่งมาได้ จากการลงเลือกตั้งเป็นครั้งที่10 แต่ทว่า ด้วยปัญหาทางด้านสุขภาพ จึงจำเป็นต้องพักกิจกรรมไปมากกว่า2เดือน MVเพลงใหม่ที่เธอได้เป็นเซนเตอร์อย่าง Sentimental Train ก็ถูกแทนที่ด้วยภาพวาดและCG ความว่างเปล่านั้นทำให้แฟนๆกระวนกระวายใจไม่น้อย แต่ในที่สุด เธอคนนี้ก็ได้กลับมาในสภาพที่สมบูรณ์ กลับมาเปล่งประกาย และรักษาสัญญาที่ให้ด้วยผลงาน 'กราเวียร์ของมัตสึอิจูรินะ ที่แฟนๆทุกคนคิดถึง'

J : วันนี้สนุกมากเลยค่ะ! ได้กลับมาด้วยการถ่ายทำแบบนี้ ค่อยรู้สึกโล่งใจขึ้นแล้วล่ะค่ะ 

ช่วงเวลาก่อนที่จะกลับมานั้นกินเวลามากกว่าสองเดือน เธอจะกำลังคิดอะไรอยู่บ้างนะ

J : ตลอดเวลาที่ยังกลับมาไม่ได้ฉันรู้สึกผิดต่อทั้งแฟนๆและเมมเบอร์มากค่ะ แต่ว่า ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วล่ะค่ะ ต่อไปก็อาจจะมีเรื่องให้ทุกคนต้องตื่นเต้นตกใจกันอีก แต่นั่นเป็นเพราะฉันชอบทำให้แฟนๆดีใจ หรือไม่ก็ประหลาดใจค่ะ หวังว่าทุกคนจะเข้าใจนะคะ จริงด้วย! ช่วงที่พักอยู่ฉันแต่งเพลงด้วยล่ะค่ะ เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับSKE48ในตอนนี้น่ะค่ะ พอได้ดูวิดิโอพิเศษที่แถมมากับซิงเกิ้ลแล้วไอเดียมันก็เอ่อล้นออกมาเลย(หัวเราะ) หากวันใดวันนึงได้โชว์ให้ทุกคนดูได้ก็ดีน่ะสิเนอะ เดือนตุลาคมSKE48ก็จะครบรอบ10ปี โชคดีจังค่ะที่กลับมาได้ตรงเวลาพอดี 

หลังจากที่ได้รับอันดับหนึ่งในงานเลือกตั้ง ก็มีเรื่องที่อยากจะทำสินะ

J : เพราะสุดะอาการิจังได้อันดับที่สอง SKE48เลยได้เป็น OneTwo Finish ค่ะ ด้วยความแข็งแกร่งนี้ เราอยากจะทำกิจกรรมให้มากขึ้นทั้งที่โตเกียวและนาโกยะในฐานะSKE48ค่ะ แล้วก็จะพลาดพาเหรดที่นาโกยะที่เคยสัญญาเอาไว้ไม่ได้เด็ดขาดค่ะ! อยากจะเปิดเพลงของSKE48ไปด้วย อยากจะทำให้หรูหราสุดๆไปเลยค่ะ 

หญิงสาวผู้เป็นหน้าตาในฐานะของเซมบัตสึเมมเบอร์ของAKB48 มีความทะเยอะทะยานนี้อยู่ในกำมือ

J : เป้าหมายต่อไปก็คือ การได้กลับไปยืนบนนาโกยะโดมในฐานะSKE48 และยืนบนโตเกียวโดมในฐานะAKB48ค่ะ ไม่มีทางยอมแพ้ต่อฝันนี้เด็ดขาดค่ะ 

เพลง Sentimental Train ที่ถูกขับร้องด้วยเซมบัตสึเมมเบอร์จากการเลือกตั้ง16คน ในรายการเพลงที่ออกอากาศในช่วงที่พักกิจกรรม ก็มีครั้งที่เอาถ้วยรางวัลมาตั้งแทนตำแหน่งที่เธอควรจะยืนด้วย

J : มันน่าเจ็บใจค่ะที่ต้องพักงานไปอย่างช่วยไม่ได้ ตอนแรกก็เลยคิดไว้ว่าการไม่ดูMVน่าจะดีกว่ามั้ยนะ แต่สุดท้ายแล้วก็ดูจนได้ค่ะ ตกใจมากเลยที่ฉันกลายเป็นเหมือน HATSUNE MIKU ซะอย่างนั้น 
เพราะมีการใช้ฟุตเทจเมื่อ7ปีก่อนอยู่นิดนึงด้วย มันทำให้ฉันได้ลิ้มรสถึงความคิดถึงเรื่องราวของอดีต และความสดใหม่ของปัจจุบันไปพร้อมกันค่ะ 

ช่วงเวลาที่พักกิจกรรมไปนี้ จูรินะคิดว่าตัวเองมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างไหมนะ

J : ช่วงที่พักไปน้ำหนักขึ้นมา5กิโลค่ะ(หัวเราะ) แต่ว่า วันนี้ได้รับคำชมจากทุกคนที่นี่ค่ะว่า 'แบบนี้ก็ดีแล้วนี่' เลยรู้สึกไขว้เขวไปเลยล่ะค่ะ รูปร่างแบบนี้น่ะดีเวลาถ่ายกราเวียร์ก็จริง แต่ในฐานะไอดอลที่ต้องเต้นแล้วล่ะก็ ถ้าไม่ลดลงสัก2กิโลไม่ได้แน่เลยค่ะ ถึงจะช้าไปหน่อยก็เถอะ แต่กำลังเริ่มการทำ Long Breathe Diet อยู่ค่ะ ลำบากมากเลยล่ะค่ะ! แต่ก็ได้ไปเรียนกับคุณครูมาแล้ว ก็เลยว่าจะทำต่อไปค่ะ แล้วก็ทำอาหารเก่งขึ้นด้วย ได้มีโอกาสทำอาหารกับคุณแม่เยอะขึ้นเลยค่ะ ก่อนที่จะพักไปได้ทำอาหารบ้างก็จริง แต่(ตอนนี้)ชำนาญขึ้นแล้วล่ะค่ะ พอได้พัก ก็เลยไม่มีเรื่องที่ต้องคิด ในหัวก็เลยว่าง ความคิดก็หมุนเวียนง่ายขึ้น แล้วก็อยากจะมีความเป็นผู้หญิงให้มากขึ้นด้วยค่ะ

จูรินะที่ทั้งสดใสและเป็นธรรมชาติตลอดการถ่ายทำและให้สัมภาษณ์นั้น ถึงเธอจะพูดว่าสภาพร่างกายยังไม่กลับมาเหมือนเดิมก็ตาม แต่เชื่อเถอะว่าเธอกำลังอยู่ในขั้นพัฒนา และก้าวเดินต่อไปในฐานะของQueen




ญี่ปุ่น-เกาหลี :@Ruiring632
เกาหลี-ไทย  : EARN

วันอังคารที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2561

[แปล] หนึ่งร้อยเปอร์เซน เอสเคอีโฟร์ตี้เอท เล่มห้า บทสัมภาษณ์มัตสึอิจูรินะ

จะไม่จบแค่ที่10ปี จากนี้ไปสิคือการเริ่มต้นของจริง
มัตสึอิจูรินะ(รุ่น1)



การหวนคืนสู่ตำแหน่ง
หากคนที่ขับร้องไม่ใช่ฉันเองล่ะก็นะ

Q : เซนเตอร์ Ikinari Punchline คือจูรินะซังสินะครับ!
A : ใช่แล้วค่ะ! นานพอดูเลยนะคะเนี่ย!

Q : ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้หรือเปล่าครับ?
A : ไม่คิดเลยค่ะ คิดไว้แค่ว่าอาจจะเป็นยูนานะ(โอบาตะยูนะ)รึเปล่าน้า 

Q : รู้เรื่องนี้ตอนไหนเหรอครับ?
A : รู้ตอนที่อยู่เกาหลีค่ะ เหมือนจะรู้เพราะว่าเมมเบอร์ส่งคลิปวิดีโอมาบอกว่า 'วันนี้มีประกาศเซมบัตสึล่ะค่ะ' หรือเปล่านะ? ตกใจมากเลยล่ะค่ะ เพราะคิดไว้ว่าการจะกลับมาเป็นเซนเตอร์ที่SKE48อีกครั้งคงจะอีกสักระยะ เลยมีคิดไว้ว่าอีกทีอาจจะเป็นตอนจบการศึกษาเลยรึเปล่านะ 

Q : เป็นเพลงแบบไหนเหรอครับ?
A : เป็นเพลงที่มีท่าเต้นออกแนวค่อนข้างเร่าร้อนค่ะ เพราะเป็นเพลงที่ให้ความรู้สึกเท่ๆหน่อย เลยอยากให้ได้ดู MV กันไวๆค่ะ! เนื้อเพลงพูดในมุมมองของผู้ชาย ที่อยากจะครอบครองผู้หญิงคนนึง แต่ผู้หญิงก็ไม่หันมามองเลย เพราะงั้นจู่ๆผู้ชายคนนั้นก็เลยปล่อยหมัดเด็ดออกมา ประมาณว่าอยากจะครอบครอง.. อะไรแบบนี้น่ะค่ะ

Q : ดังนั้นแล้ว ก็เลยชื่อเพลง Ikinari Punchline สินะครับ แล้ว MV ล่ะเป็นยังไงครับ?
A : เต้นกันไม่ได้หยุดเลยล่ะค่ะ ชุดมีทั้งชุดสีแดงวิบวับ กับชุดสีขาวแบบหญิงสาวค่ะ ตอนถ่ายเดี่ยวก็โดนบอกว่า 'เต้นฟรีสไตล์ไปเลยนะครับ' ด้วยค่ะ ตอนถ่ายฉากลิปซิงค์ก็ใส่แรงลงไปมากกว่าปกติเลยล่ะค่ะ

Q : เป็นการเต้นในสไตล์SKE48สินะครับ
A : ใช่แล้วล่ะค่ะ มีซีนที่ราดของเหลวสีทองๆลงบนหัวไหล่กับมือด้วย สนุกมากเลยค่ะ จริงสิ! ผกก.คราวนี้เป็นคนไอจิด้วยล่ะค่ะ เขาก็มีชวนคุยกับเมมเบอร์เรื่องบ้านเกิด ทำให้บรรยากาศสนุกขึ้นมากเลยค่ะ เพราะคนนาโกยะก็จะชอบคนนาโกยะนั่นเองค่ะ 

Q : เพราะหนทางสู่ปีที่10ของSKE48อยู่ตรงหน้า เลยยิ่งใส่พลังกันเลยสิครับ?
A : ใส่พลังลงไปเยอะมากค่ะ ส่วนมากจะใช้เวลาเรียนท่าเต้นครั้งแรกกัน4ชม. แล้วก็ซ้อมให้เป๊ะกันอีก2-3ชม. รวมแล้วก็ประมาณ7ชม.ค่ะ แต่คราวนี้ใช้เวลาเรียนท่ากัน5ชม. แล้วก็บวกเพิ่มไปอีก2ชม.ค่ะ พอรวมกันส่วนที่ซ้อมให้สมบูรณ์แบบ ก็เกิน10ชม.ไปเลยล่ะค่ะ 

Q : ทุ่มเทแรงกายแรงใจเลยสินะครับเนี่ย?
A : โชคดีที่ไม่มีใครที่ตามไม่ทันเลยค่ะ ทั้งท่าเต้นและตำแหน่งยืนน่ะยากมาก หากแยกแถวออกไปเป็นแนวทแยงได้ไม่ตรงเป๊ะๆล่ะก็ไม่ได้เลยล่ะค่ะ เพราะงั้นนอกจากท่าเต้นก็ต้องบวกตำแหน่งยืนเข้าไปอีก เลยใช้เวลานานค่ะ

Q: เห็น Avex บอกว่า ทางเขาเต็มที่ทั้งการถ่าย MV และถ่ายปกเลยนะครับ เสื้อผ้าก็ทุ่มเทกับเวลาทำ ทั้งการแต่งหน้าก็เรียกได้ว่าร่วมแรงกันเลยทีเดียว
A : คงเป็นเพราะว่าใกล้จะครบ10ปีสินะคะ การร่วมแรงร่วมใจนั้นเมมเบอร์อย่างเราก็สัมผัสได้ค่ะ เลยรู้สึกดีใจมากเลย ต้องขอบคุณจริงๆค่ะที่ลงแรงกับSKE48(หัวเราะ) ช่วงนี้ก็ทั้งจัดคอนเสิร์ตให้ เสื้อผ้าใหม่ๆก็เยอะขึ้นด้วยค่ะ

Q : ถ้าชุดนี้ได้เอาไปให้ตุ๊กตามีมี่จังใส่ก็คงจะดีนะครับ นาโกยะคงจะคึกคักขึ้นมาเลย 
A : ถ้างั้นก็ดีน่ะสิคะ!

มีมี่จังที่นาโกยะค่ะ


Q : พอพูดถึงนาโกยะแล้ว ได้คุยกับท่านนายกเทศมนตรี คาวามูระ ทากาชิด้วยสินะครับ
A : ใช่แล้วค่ะ ท่านถามมาว่า 'หลังงานเลือกตั้งจบอยากจะทำอะไร?' ค่ะ เลยขอร้องไปว่า 'หากได้ที่1ล่ะก็ช่วยจัดพาเหรดให้ด้วยเถอะนะคะ' บอกไปแบบนั้นท่านก็ตอบมาค่ะว่า 'ดีเหมือนกันนะ!' ดูท่าทางท่านคงจะหาที่ว่างๆในเมืองที่พอจะจัดพาเหรดให้ได้ค่ะ บอกมาว่า 'พาเหรดครั้งที่1ให้เป็นSKE48เถอะ' ค่ะ

Q : นั่นสุดยอดไปเลยนะครับ ก่อนทีม Chunichi Dragons อีก
A : หากได้เชียร์ทีม Dragons ไปด้วยจะต้องสนุกขึ้นแน่เลยค่ะ!

Q : นั่นสินะครับ(หัวเราะ) แต่ว่า ชุดวิบวับสีแดงนี่หากได้อยู่ในขบวนพาเหรดจะต้องสุดยอดแน่ๆ!
A : เยี่ยมเลย!

Q : หากจะถามอะไรให้เข้ากับชื่อเพลงล่ะก็ ไม่ทราบว่าได้คุยกับโอบาตะซังหรือยังครับ?
A : ยังไม่ได้คุยกันจริงจังเลยค่ะ ก็สงสัยอยู่ว่าเธอจะคิดยังไงนะคะ เรื่องน่าดีใจก็คือ ตอนที่ชูริได้ฟังเพลงนี้แล้วพูดว่า 'นี่คือเพลงของจูรินะซัง' ค่ะ 
(ทาคายานะงิที่อยู่แถวนั้นเข้ามาใกล้โดยบังเอิญพอดี)
ชูริ : จริงๆแล้วฉันพูดว่า 'พอได้ฟังเพลงแล้ว เซนเตอร์จะต้องเป็นจูรินะซังเท่านั้น!' ต่างหากล่ะคะ คนอื่นไม่ไหวหรอค่ะ! ไม่สิ จะบอกว่าไม่ไหวก็จะเกินไปหน่อย จะให้พูดยังไงดี...
J : แค่ J คนเดียวเท่านั้น (หัวเราะ) 
ชูริ : ฉันว่าเซนเตอร์เพลงนี้ดูจะเหมาะสมกับคนที่ลุคดูผู้ใหญ่หน่อยค่ะ 


จำเป็นต้องตั้งเป้าหมาย 
และเตรียมพร้อมมุ่งสู่ฝันครั้งใหม่


Q : SKE48กำลังจะก้าวเข้าสู่ปีที่10แล้ว อยากจะให้วงเป็นไปในทิศทางไหนครับ?
A : SKE48น่ะ หากให้พูดถึงความฝันหรือเป้าหมายของตัวเองโดยที่ไม่ต้องเกรงใจกันนั้น ทุกคนจะมุ่งไปยังเป้าหมายเดียวกัน ฉันคิดว่า 'นี่แหละคือSKE48' ค่ะ ฉันคิดว่าตอนนี้เป็นเวลาที่จะพูดแทนสิ่งที่อยู่ในใจของทุกคนได้ค่ะ มันจะกลายเป็นแรงขับเคลื่อนมั้ยนะ หากจะให้พูดอย่างเป็นรูปธรรมล่ะก็ ก็คือการได้ยืนบนนาโกยะโดมตอนครบรอบ10ปีค่ะ แต่ว่า หากเราบรรลุผลเรื่องนั้นแล้ว ก็รู้สึกว่า แล้วต่อจากนั้นล่ะจะเป็นยังไง หากไม่ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนต่อไปล่ะก็ไม่ได้การแน่ๆค่ะ ฉันคิดว่าครบรอบ10ปีนี่แหละคือการเริ่มต้นของจริง อยากจะค้นหาความฝันหรือไม่ก็เป้าหมายใหม่ค่ะ 

Q : ผมคิดว่า การได้จัดคอนเสิร์ตที่นาโกยะโดมเมื่อ4ปีก่อนนั้น ไอ้ความรู้สึกที่ว่าได้บรรลุเป้าหมายเนี่ย ส่วนหนึ่งก็มาจากการยอมรับของเมมเบอร์สินะครับ 
A : ฉันก็คิดแบบนั้นนะคะ

Q : กลายเป็นว่าตั้งเป้าหมายเอาไว้เป็นนาโกยะโดมสินะครับ
A : ใช่แล้วค่ะ ถึงจะบอกว่า ก็เคยยืนบนนาโกยะโดมแล้วนี่ ก็ตาม แต่ฉันก็คิดว่านั่นยังไม่ใช่ทั้งหมด อยากจะทำโดมทัวร์ด้วยค่ะ เพราะอยากให้คนในหลายๆที่ได้พบกับSKE48 คำว่าเป้าหมายใหม่เนี่ย ไม่จำเป็นต้องมีแค่ข้อเดียวนี่คะ โดมทัวร์ก็ดี การได้กลับไปขึ้นงานขาวแดงก็ดีเหมือนกันค่ะ หากได้เคลียร์ไปทีละอย่างได้ก็คงจะดีนะคะ หากไม่มีเป้าหมายแบบนั้นล่ะก็ แฟนๆก็คงจะคิดว่า 'SKE48กำลังมุ่งไปสู่อะไรกันนะ' 'นี่เรากำลังเชียร์พวกเธอไปเพื่ออะไร' แน่ๆเลยค่ะ นั่นไม่ใช่แค่เพราะว่าฉันชอบSKE48 แต่ฉันคิดว่าเพราะเป้าหมายเหล่านั้นเป็นสิ่งล้ำค่าที่เราจะบรรลุมันไปพร้อมๆกับแฟนๆได้ค่ะ

Q : ในกรุ้ปก็จะแบ่งเป็นคนที่ตั้งเป้าหมายและไม่ตั้งเป้าหมาย ช่วงเวลาหลายปีผ่านมานี้ การไม่ตั้งเป้าหมายกลายเป็นเทรนด์ไปเสียแล้ว คิดเห็นอย่างไรบ้างครับ?
A : ฉันเป็นประเภทตั้งเป้าหมายนะคะ ฉันคิดว่านั่นทำให้เราสามัคคีและคึกคักขึ้นมาได้ค่ะ การที่บรรลุเป้าหมายได้มันน่าดีใจออกไม่ใช่เหรอคะ? มันไม่ใช่แค่การไปยืนบนโดม แต่เป็นการไปยืนบนสถานที่ที่เป็นเป้าหมายได้ต่างหากค่ะ ความประทับใจต้องยิ่งใหญ่กว่าอยู่แล้ว ฉันน่ะอยากที่จะมีความสุขและสนุกไปกับทุกๆคนค่ะ ดังนั้นแล้วการตั้งเป้าหมายเป็นเรื่องจำเป็นนะคะ 

Q : เพราะเป็นคนที่ทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เลยยึดถือไปแล้วว่าเส้นชัยไม่ใช่แค่นาโกยะโดมสินะครับ
A : ฉันก็กำลังคิดเรื่องนั้นอยู่ค่ะ แต่ก็คิดแหละค่ัะว่านาโกยะโดมต้องไม่ใช่จุดจบ ว่าตามจริงแล้วฉันอยากจะทำให้เราเป็นวงที่จัดโดมทัวร์ได้ค่ะ ก่อนอื่นเลยสิ่งที่ต้องทำคือการได้กลับไปยืนบนนาโกะยะโดมของSKE48 หากเรามีพาวเวอร์ขนาดนั้น ฉันคิดว่าเราก็น่าจะสามารถจัดในสถานที่อื่นๆได้เช่นกันค่ะ 


ปรีดาในฐานะไอดอล
หว้าเหว่ในฐานะมนุษย์ 


Q : ต่อไปไม่ใช่เรื่องกรุ้ปแล้ว มาคุยเรื่องส่วนตัวกันดีกว่าครับ การที่จะทำให้กลุ่มแข็งแกร่งได้ตัวเราเองก็ต้องแข็งแกร่งด้วย จูรินะซังมีออพชั่นอะไรที่จะทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้นได้บ้างครับ?
A : ก็ทั้งงานเลือกตั้งทั่วไปด้วย แล้วก็อยากจะเป็นเซนเตอร์ในซิงเกิ้ลของAKB48ค่ะ

Q : แปลว่าไม่ใช่แค่ซิงเกิ้ลที่จะขายในเดือนกันยาเท่านั้นสินะครับ
A : ค่ะ เป็นเรื่องที่เพิ่งจะคิดเมื่อไม่นานนี้ก็จริงค่ะ แต่ฉันเริ่มต้นมาจากการได้เป็นเซนเตอร์ในซิงเกิ้ล 'Oogoe Diamond' ของAKB48ใช่ไหมล่ะคะ? ก็มีคิดว่า คำว่าเซนเตอร์คืออะไรกันนะ แล้วก็ลองสังเกตุผู้คนหลายๆประเภทที่ได้เป็นเซนเตอร์ค่ะ เหล่ารุ่นพี่ยืนอยู่ในจุดนั้นยังไง แล้วถ้าเป็นรุ่นน้องล่ะจะออกมาเป็นยังไง พอคิดแบบนั้นแล้ว ความกระหายที่อยากจะเป็นเซนเตอร์ก็ค่อยๆแข็งแกร่งขึ้นค่ะ มันไม่ใช่ที่ที่ใครจะมายืนก็ได้นี่คะ เพราะได้มองแผ่นหลังอันโด่งดังของมาเอดะซัง,ยูโกะซัง,มายุซัง,ซาชิฮาระซังมา ก็เลยยิ่งสัมผัสได้ถึงคุณค่าของการได้เป็นเซนเตอร์ค่ะ ยิ่งเพราะเคยได้ยืนอยู่บนเวทีเดียวกันมาก่อน ฉันก็เลยรู้ดีค่ะ แต่ว่าตำแหน่งเซนเตอร์ของAKB48ในตอนนี้ออกจะแตกต่างออกไป รู้สึกว่าจะเป็นช่วงที่ให้เมมเบอร์หลายๆคนผลัดกันมายืนเซนเตอร์หรือเปล่านะ? แต่เพราะว่าAKB48น่ะมีวิธีการคิดที่ว่า 'จะไม่ทำอะไรที่ธรรมดาๆ' ยึดถือเป็นสำคัญเลยล่ะค่ะ ก็เลยพอจะเข้าใจได้นะคะ แล้วตอนนี้เหล่ารุ่นน้องก็คิดอยากที่จะยืนตำแหน่งเซนเตอร์ คิดว่าตำแหน่งเซนเตอร์ของAKB48น่ะสุดยอดจริงๆก็มีค่ะ เพราะเซนเตอร์ของAKB48 ก็คือเซนเตอร์ของ48กรุ้ปไงล่ะคะ ดังนั้นแล้ว การที่ได้เป็นเซนเตอร์จากการได้ที่1ในงานเลือกตั้งก็สำคัญ แต่จากตรงนั้นเป็นต้นไปฉันก็คิดว่ามันก็สำคัญมากเหมือนกันค่ะ 

Q : เพื่อสิ่งนั้นแล้ว ก็เลยจำเป็นต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้คนสินะครับ
A : ไม่ใช่แค่นั้นนะคะ แต่สิ่งสำคัญที่ต้องมาก่อนเลยคือการได้เป็นที่1ในงานเลือกตั้งแล้วได้รับการยอมรับรึเปล่านะ?

Q : นั่นต้องสำคัญอยู่แล้วครับ ถึงจะเป็นเรื่องที่ผมคิดไว้ก่อนหน้านี้แล้วก็ตาม แต่ผมคิดว่าออพชั่นที่สำคัญสำหรับจูรินะซังอีกอย่างคือการได้ไปออกรายการภาคพื้นน่ะครับ
A : อ๋า~ นั่นสินะคะ 

Q : หากทำให้คนอีกหลายๆคนรู้จักมากขึ้นได้ ก็จะสามารถเป็นหน้าตาของกรุ้ปได้ด้วยสินะครับ
A : อยากไปออกมากๆเลยค่ะ! หากจัดตารางงานได้ล่ะก็นะ(หัวเราะ) เห็นว่าคาวาเอย์(รินะ)จังก็เหมือนจะได้ออกรายการ 'A-Studio'อยู่ใช่ไหมล่ะคะ? นั่นน่ะเป็นสิ่งที่ล้ำค่ามากเลยนะคะ

Q : นอกจากนี้แล้วมีอะไรที่จำเป็นอีกไหมครับ?
A : หากมีเรื่องที่ทำได้อีกก็ดีสินะ จนถึงตอนนี้ฉันเอาแต่คิดถึงเรื่องกรุ้ปค่ะ ก็เลยไม่มีงานอดิเรกเป็นของตัวเองเลย ได้โอกาสไปออกTVบ้างก็จริง แต่ตามเรื่องที่เขาคุยๆกันไม่ทันเลยล่ะค่ะ 

Q : เป็นเรื่องความรู้ทั่วไปเหรอครับ? หรือว่าเรื่องที่กำลังได้รับความนิยม?
A : ทั้งคู่เลยค่ะ(หัวเราะ) 

Q : เพราะว่าตารางงานไม่ว่างเลยสินะครับ
A : ได้รับความเมตตาในฐานะของไอดอลมัตสึอิจูรินะมาตลอดก็จริง แต่ในฐานะของมนุษย์มัตสึอิจูรินะน่ะ เป็นคนขี้เหงานะคะ หากได้เติมเต็มในส่วนนั้นได้ก็คงจะดีค่ะ อยากจะมีงานอดิเรกอื่นนอกจากมวยปล้ำด้วย

Q : อยากเพิ่ม(งานอดิเรก)อะไรเหรอครับ?
A : เพราะการดูกีฬาน่ะสนุกมาก เลยอยากจะรู้ให้ละเอียดในอีกหลายๆแขนงค่ะ การดูเบสบอลก็สนุกนะคะหากมีสโมสรที่เชียร์อยู่ โดยเฉพาะทีมDragons เพราะเป็นทีมที่SKE48เป็นตัวแทนเชียร์อยู่ ก็เลยเชียร์ได้อย่างเต็มที่ แต่จนถึงตอนนี้ก็มีแฟนๆที่เป็นแฟนของทีมอื่นอยู่ ก็เลยพูดยากหน่อยน่ะค่ะ 

Q : ได้เข้าไปดูการแข่งขันด้วยสินะครับ
A : ค่ะ การที่ได้เข้าไปนั่งเชียร์น่ะสนุกมากก็จริง แต่ดีใจด้วยค่ะที่ได้เข้าใจจิตใจของแฟนๆ ทำให้รู้ว่า การเชียร์เนี่ย เป็นอะไรที่ใช้พลังกายขนาดนี้เลยนะ หรือไม่ก็ การที่ทีมDragonsชนะทำให้เราดีใจขนาดนี้เลยเหรอ เป็นต้นค่ะ ทั้งการดูการแข่งขันมวยปล้ำและเบสบอล ทำให้ฉันเกิดความคิดอันแรงกล้าแบบนั้นขึ้นมาได้ค่ะ

Q : สุดท้ายนี้ ได้ยินว่ามาจากคอนเสิร์ตที่ไกชิฮอลล์ครับ เป็นความทรงจำที่เกี่ยวกับจูรินะซังครับ
ตอนเพลง 'Oki Doki' บนคอนเสิร์ตรอบเย็น ตอนกลางเพลงได้มีเปลี่ยนคำร้องจาก 'ไปกันเถอะ Oki Doki!' เป็น 'ไปกันเถอะ นาโกยะโดม!' ด้วยนี่ครับ นั่นเป็นแอดลิปใช่ไหมครับ?
A : ใช่แล้วค่ะ! ท่อนนั้นน่ะไม่ค่อยถูกเปลี่ยนคำร้องเลยนะคะ เลยคิดเองว่าท่อนนั้นน่ะห้ามเปลี่ยนค่ะ แต่ว่าวันนั้นจู่ๆก็มีแว้บนึงที่คิดว่า เปลี่ยนคำร้องเถอะ แล้วก็เปลี่ยนมันตอนนั้นเลยค่ะ(หัวเราะ) ทำไมกันนะ? บางทีอาจจะเพราะความรู้สึกที่ว่าเราดูเหมือนจะไปยังนาโกยะโดมได้ล่ะมั้งคะ? เพราะรู้สึกแบบนั้น ก็เลยเผลอพูดออกไปน่ะค่ะ ก็คิดนะคะว่า 'ดีล่ะ งั้นมาพูดออกไปเลย!'

Q : ด้วยคำพูดนั้น ผมว่ามันทำให้บรรยากาศของกรุ้ปกลายเป็นหนึ่งเดียวเลยนะครับ เริ่มต้นจากการที่พูดออกมาว่า 'ไปกันเถอะ นาโกะยะโดม' ในคอนเสิร์ต Unit Battle นั้นน่ะ กลายเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ไปเลยนะครับ
A : พูดออกไปอย่างชื่นมื่นเลยล่ะค่ะ เพราะคิดว่า 'หากพูดไปละก็จะต้องคึกคักกันแน่ๆ' น่ะค่ะ(หัวเราะ) 
หลังจากนั้นในงานจับมือ ก็มีแฟนๆที่มาบอกว่า 'ชั่ววินาทีนั้น เสียงเชียร์ในไกชิฮอลล์น่ะดังที่สุดเลยนะ!' พอได้ยินแบบนั้นแล้วก็ยิ้มกว้างออกมาอีกรอบเลยล่ะค่ะ(หัวเราะ) 
 




ญี่ปุ่น-เกาหลี : @Ruiring632
เกาหลี-ไทย  : EARN