วันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2561

[แปล] หนังสือพิมพ์ AKB48 ฉบับ เดือนพฤศจิกายน 2018 บทสัมภาษณ์ชูริจูริ (ทาคายานางิ อากาเนะ,มัตสึอิ จูรินะ) PART1



การกลับมา
Q : ก่อนที่จะพูดถึงเรื่องครบรอบปีที่10 จูรินะซัง ยินดีกับการกลับมาด้วยครับ จูรินะ : ขอบคุณค่ะ! อากาเนะ : รออยู่เสมอเลยค่ะ~! จูรินะ : ก่อนงานเลือกตั้งฉันไม่ได้นอนเลยตลอดสามวันค่ะ เพราะแฟนๆเองก็ต่อสู้กับงานเลือกตั้งจนไม่ได้หลับไม่ได้นอนเหมือนกัน ฉันเองจะไม่สู้ก็เห็นทีว่าจะไม่ได้ค่ะ ดังนั้น พอจบงานเลือกตั้งแล้ว ก็ทั้งโล่งใจ ทั้งความเหน็ดเหนื่อยก็ล้นทะลักออกมาเลยล่ะค่ะ Q : ช่วงเวลาสามเดือน ทำอะไรบ้างเหรอครับ? จูรินะ : ฉันแทบจะไม่ออกไปข้างนอกเลยค่ะ ก็แต่งเพลง แล้วก็ทำของจำพวกเครื่องประดับอยู่ที่บ้านค่ะ ทำอาหารทุกวันเลยด้วย มีความเป็นผู้หญิงขึ้นมากเลยค่ะ(หัวเราะ) จริงๆแล้วน้ำหนักขึ้นมา5กิโลด้วย(หัวเราะ) Q : ได้รับรู้เรื่องราวข้างนอกบ้างไหมครับ? จูรินะ : ไม่เลยค่ะ ฉันไม่ดูพวกข่าวอะไรเลย คิดไว้ว่าต้องทำใจให้สงบค่ะ แต่ว่ามีวันนึงจู่ๆก็เกิดอยากดูTVขึ้นมาก็เลยเปิดดู เจอรายการตอบคำถามที่โซวดะ(ซารินะ)จังไปออก ยังคิดอยู่เลยค่ะว่า น่าดีใจจังเลยนะที่ถึงแม้ช่วงที่ไม่มีฉันแต่SKEก็ยังคงพยายามกันอยู่ Q : ช่วงเวลาที่ไม่มีจูรินะซังSKEเป็นอย่างไรบ้างเหรอครับ? อากาเนะ : ช่วงฤดูร้อนก็จะมีทั้งงานมิฮามะ มีอีเวนท์แบบแยกทีมค่ะ คลื่นแรงมากจนฉันไม่สามารถจำเรื่องราวทั้งหมดได้เลยล่ะค่ะ แต่เหมือนที่มิฮามะจะใหญ่ที่สุดหรือเปล่านะ เพราะที่นั่นเป็นคอนเสิร์ตที่SKE48ทุกคนรวมกันเป็นหนึ่งเดียว การที่ไม่มีจูรินะซังอยู่นั้นทำให้เรารู้สึกมากกว่าครั้งไหนๆค่ะ อย่างไรก็ตาม ทีมSน่ะ ได้จัดเซทลิสที่ทุกคนจะไม่มีวันลืม ถึงแม้ว่าจะไม่มีจูรินะซังตัวจริงอยู่ก็ตามล่ะค่ะ จูรินะ : อย่างนี้นี่เอง~ อากาเนะ : แม้ว่าตอนนี้เมมเบอร์อยู่จะพยายามสุดแรงแล้ว แต่ก็มีใส่เพลง Oogoe Daimond ที่จูรินะซังเป็นเซนเตอร์ลงไปด้วยค่ะ ในตอนที่ให้ความสำคัญกับคำว่า ''SKE48น่ะมีจูรินะซังอยู่ด้วยนะ'' การแสดงไลฟ์ให้ทุกคนรับรู้ได้ก็เป็นสิ่งสำคัญค่ะ จูรินะ : การที่ไม่มีฉันอยู่แต่งานก็ดำเนินไปได้ทำให้ฉันรู้สึกเหงาอยู่นะคะ แต่ในทางตรงกันข้าม นั่นก็ทำให้ฉันรู้สึกสบายใจ เหมือนว่า ถ้าฉันจบการศึกษาไปก็คงไม่เป็นไรแล้วค่ะ ถึงแม้จะยังไม่คิดถึงเรื่องจบการศึกษาเลยก็เถอะ เสื้อผ้า
Q : บทสัมภาษณ์เนื่องในโอกาสครบรอบ10ปี ทั้งสองคนก็เลยได้เลือกชุดที่จะใส่เองด้วยนี่ครับ อากาเนะ : ฉันใส่ชุดทีมK2ในคอนเสิร์ตที่นาโกยะโดมมาค่ะ จนถึงตอนนี้เพิ่งใส่ไปแค่สองครั้งเอง หากไม่ใช่ในโอกาสแบบนี้น่ะคงไม่ได้ใส่อีกแน่ๆเลย แล้วนึกไปถึงเรื่องราวเบื้องหลังของชุดแล้ว ก็เลยเลือกชุดนี้มาใส่ค่ะ Q : ตอนนั้นทีมK2ถูกชัฟเฟิลไปแล้วนี่ครับ อากาเนะ : แต่ว่า ฉันคิดว่าชุดนี้ทำขึ้นมาก่อนหน้านั้นค่ะ (ฟุรุคาวะ)ไอริ เมมเบอร์ออริจินัลสเตจ Ramune no Nomikata เป็นคนวาดน่ะค่ะ แล้วอีกอย่าง เพราะมีความรู้สึกที่อยากจะยืนที่นาโกยะโดมด้วยค่ะ ช่วงนี้น่ะ พอพูดถึงหรือนึกถึงเรื่องราวสมัยก่อนแล้วก็มักจะได้ยินว่า ''เธอกำลังดึงเอาเรื่องราวเก่าๆมาพูดนะ'' ค่ะ แต่ว่า ตอนนี้เป็นไทม์มิ่งที่จะได้หวนถึงอดีต เพราะอย่างนั้น ก็เลยเลือกชุดนี้มาค่ะ จูรินะ : ของฉันเป็นชุดจากเพลง Mae no Meri ค่ะ เพราะตอนที่เรนะจังจบการศึกษาเป็นช่วงเวลาที่เจ็บปวดที่สุด นี่เลยเหมือนเป็นเครื่องแสดงว่าตอนนี้หัวใจฉันแข็งแกร่งขึ้นแล้วค่ะ Q: จากเนื้อเพลงก็คือ จงใช้ชีวิตด้วยการทะยานไปข้างหน้าอย่างสุดตัว จูรินะ : เนื้อเพลงก็มีส่วนเกี่ยวข้องแต่ฉันกลับคิดตรงกันข้าม(กับเนื้อ)ค่ะ ท่อนที่ว่า ''แม้พวกผู้ใหญ่จะเคยพูดว่า ค่อยๆเดินไปก็ได้ แต่ฉันก็เลือกที่จะพุ่งทะยานไปข้างหน้า'' สามเดือนที่พักไปนี้ ทำให้ฉันเปลี่ยนความคิดใหม่เป็น ''ค่อยๆก้าวเดินไปข้างหน้าก็ได้'' ค่ะ เหมือนคำที่ผู้ใหญ่ว่า ฉันเองก็เพิ่งจะ21 หากมองไปรอบๆตัวแล้ว ก็มีทั้งคนที่อายุเท่ากัน มีทั้งคนที่เป็นพี่สาว แม้ว่าตลอดสิบปีจนมาถึงตอนนี้ฉันใช้ชีวิตแบบทะยานไปข้างหน้าก็ตาม แต่ตอนนี้ฉันกลับคิดได้ว่า การที่เราค่อยๆทำมันอย่างช้าๆก็ไม่ได้เสียหายไม่ใช่หรอกหรือ รอยเท้า
Q : จากนี้ไปเรามาเข้าเรื่องครบรอบ10ปีกันดีมั้ยครับ หากมองย้อนกลับไป ลองบอกเรื่องที่ประทับใจให้ฟังหน่อยได้ไหมครับ จูรินะ : เริ่มจากสเตจ ''Party ga Hajimaruyo''(ตุลาคม 2008) เลยค่ะ ก่อนหน้านี้ไม่นาน ฉันได้ทำการแสดงร่วมกับเด็กๆ7D2(รุ่น7+ดราฟรุ่น2)บนสเตจครบรอบ10ปีไปค่ะ ตอนนั้นฉันอายุน้อยที่สุด แต่คราวนี้กลับกลายเป็นคนที่อายุมากที่สุดไปแล้วค่ะ เลยรู้สึกได้ถึงประวัติศาสตร์เลย อากาเนะ : ถ้าพูดถึงสเตจล่ะก็ต้อง ''Te wo Tsunaginagara''(กุมภาพันธ์ 2009)เลยค่ะ เป็นสเตจแรกที่ได้ดูหลังจากออดิชั่นผ่านเข้ามาเป็นSKEค่ะ แต่ว่าวันนั้นทั้งจูรินะซังและเรนะซังไม่ขึ้นแสดงล่ะ จูรินะ : เสียใจอ่ะ อากาเนะ : ตอนนั้นทั้งคู่ยุ่งมากเลยนี่คะ(หัวเราะ) แต่ว่าตอนที่ได้ดูสเตจก็คิดว่า ''ฉันเองก็จะได้มาเต้นที่นี่เหรอเนี่ย'' ที่จำได้แม่นเลยคือตอนดูเพลง Kayoubi no yoru, suiyoubi no asa ค่ะ จูรินะ : ทำไมอ่ะ!? อากาเนะ : ก็คิดว่า ''ไอดอลก็ร้องเพลงเท่ขนาดนี้ด้วยเหรอเนี่ย'' ค่ะพอลองไปเสิร์ชดู ก็เลยได้รู้ว่าที่เธียเตอร์นี่จะเต้นกันเอาเป็นเอาตายจนเหงื่อชุ่มเลยค่ะ นั่นเลยเป็นเหมือนภาพลักษณ์ไอดอลในสายตาฉัน รู้สึกตื่นเต้นและชอบมากๆเลยล่ะค่ะ Q : มีนอกเหนือจากนี้ไหมครับ? จูรินะ : Banzai Venus ได้ที่1เป็นครั้งแรก(มีนาคม 2011) แต่เพราะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่ญี่ปุ่น เราเลยดีใจไม่ออกเลยค่ะ อากาเนะ : เพลงc/wอย่าง Ai no Kazu ก็เป็นเพลงออริจินัลเพลงแรกของทีมK2ด้วยค่ะ จูรินะ : ทีมSเคยร้องด้วยล่ะ อากาเนะ : ใช่แล้วค่ะ! เพราะว่าทีมSดันได้ร้องก่อนทีมK2 ฉันเลยร้องไห้หนักมากเลยค่ะ!! แบบว่า ''วันนี้ทีมSร้องเหรอเนี่ย...'' จูรินะ : งั้นเหรอเนี่ย? อากาเนะ : นั่งร้องไห้อยู่ที่บ้านยกใหญ่เลยค่ะ~ คิดว่า ''เป็นเพลงแรกที่K2ได้รับแท้ๆ'' หลังจากนั้นก็ได้ยินมาค่ะว่าแฟนๆโกรธกันมากเลย จูรินะ : ขอโทษน้าชูริ~ อากาเนะ : ถึงอย่างนั้น พอได้ดูคลิปเพลงนี้ในยูทูปก็มีแฟนๆที่บอกว่า ''ช่วยเค้าไว้ได้ในช่วงประสบภัยพิบัติ'' อยู่หลายคนเลยล่ะค่ะ เพลงที่ทีมK2ร้องที่นาโกยะโดมก็คือเพลง Ai no Kazu นี่แหละค่ะ รวมกับชุดที่ใส่ในวันนี้ด้วยแล้ว เต็มไปด้วยความประทับใจค่ะ... Q : มีเพลง Aozora Kataomoi(มีนาคม 2010) ที่ทาคายานางิซังได้รับเลือกเป็นเซมบัติสึครั้งแรกด้วยนี่ครับ อากาเนะ : เพลงนี้เป็นเพลงแรกเลยค่ะที่ฉันได้ถ่ายMVของSKE แต่วันก่อนหน้านั้นถึงเราจะซ้อมกันไปเยอะมากแล้วก็จริง พอถึงถ่ายทำจริงๆก็หลงลืมท่าเต้นกันหมดเลย(หัวเราะ) จูรินะ : ใช่ๆ! เพราะว่ามีแฟนๆยืนล้อมรอบอยู่ก็เลยตื่นเต้นน่ะสิ อากาเนะ : ยังจำได้อยู่เลยค่ะว่า ทั้งส่งเสียง''เย้!'' ทั้งช่วยปรบมือให้จังหวะให้ด้วย จูรินะ : ทั้งช่วยร้องว่า A~ozo~ra Kataomoi! จูรินะ/อากาเนะ : (หัวเราะ) อากาเนะ : ดังนั้นก็เลยต้องขอโทษว่า ''จะกลับไปฝึกซ้อมกันมาใหม่นะคะ'' แล้วก็เลิกกองน่ะค่ะ จูรินะ/อากาเนะ : (หัวเราะ) อากาเนะ : เพราะงั้นแล้ว เดี๋ยวนี้เด็กรุ่น7รุ่น8ที่จู่ๆก็โดนให้ยืนเซนเตอร์แล้วยังเต้นได้เป๊ะๆนี่สุดยอดไปเลยค่ะ จุดเปลี่ยน
Q : 10ปีมานี้ ผมคิดว่าจะต้องมีจุดเปลี่ยนที่เป็นประวัติศาตร์หลายรอบแน่ๆครับ จูรินะ : ของฉันเป็นตอนที่(มิยาซาวะ)ซาเอะจังจบการศึกษาค่ะ(มีนาคม 2016) ทั้ง(คิตะกะวะ)เรียวฮะ ทั้ง(มัตสึโมโตะ)จิคะโกะ มีเมมเบอร์ที่เป็นเด็กขี้อ้อนหลายคนก็จริง แต่พอซาเอะจังไม่อยู่แล้ว ทุกคนก็เข้มแข็งขึ้น เหมือนกับว่า ''ถ้าไม่จริงจังก็คงไม่ได้การแล้ว''ค่ะ ตอนนี้ทีมSน่ะสุดยอดไปเลย ตอนนั้นฉันคิดว่า ''Sเนี่ยมีความสามัคคีกันสุดๆ'' ค่ะ ตอนนี้เรียวฮะก็เป็นลีดเดอร์ของSแล้ว มีตัวอย่างเป็นซาเอะจังค่ะ อากาเนะ : ช่วงปี2015ที่นากานิชิ(ยูกะ)ซัง,มิเอะปี้(ซาโต้ มิเอะโกะ),ไอริ จบการศึกษาหรือเปล่านะ เพราะคนที่สนิทกันแม้ในชีวิตประจำวันทุกคนจะไม่อยู่แล้วนี่คะ ตอนนั้นก็คิดว่า ''หรือจะจบไปพร้อมไอริเลย'' ดี ''หรือพร้อมเรนะซัง'' ดีค่ะ ถึงจะคิดแบบนั้น แต่ว่าทุกๆคนน่ะตัดสินใจได้แล้วนี่คะว่าอยากจะทำอะไรต่อไป ด้วยคำคำนั้น ฉันเลยตระหนักได้ค่ะว่า ''ฉันน่ะยังไม่ใช่ตอนนี้หรอก'' ค่ะ ก่อนหน้า(ที่ทุกคนจะแกรด)นั้นฉันเป็นฝ่ายที่คอยแต่พึ่งพาอาศัย ถึงแม้ว่าอะไรแบบนั้นจะต้องจบลง ฉันก็ตัดสินใจว่าจะอยู่SKEต่อไปค่ะ แต่ว่า ตั้งแต่นั้นมา ก็เริ่มได้ยินแฟนๆพูดว่า ''SKE48กำลังอยู่ในช่วงขาลง''ค่ะ จูรินะ : ได้ยินอยู่... แต่ว่า พอได้ยินสองคนนั้น(นิชิชิ/มิเอะปี้)พูดออกมาว่า ''การจบการศึกษาในตอนนี้สำหรับพวกเรา คือหมายถึงการทุ่มเทของทุกคนนะ ดังนั้นก็เลยต้องเป็น''ตอนนี้''ไง ถึงแม้ว่าจะอยากอยู่ต่ออีกหน่อยก็เถอะ...'' นั่นทำให้เรารวมพลังกันเป็นหนึ่งเดียวได้ค่ะ อากาเนะ : อยากจะแสดงให้เห็นค่ะว่า ไม่ใช่ว่า ''เพราะใครบางคนจบ วงก็เลยจบ'' ช่วงเวลาที่เคยมีอยู่เหล่านั้นน่ะ ตอนนี้ฉันสัมผัสได้ถึงการเริ่มก้าวขึ้นไปอีกครั้งแล้วค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น